จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

วิธีการทำภูเขาไฟจำลอง

vวิธีที่1 เตรียมโซเดียมไบคาร์บอนเนต 2-3 ช้อนโต๊ะ NaHCO3 หรือ โซดาไฟ + CH3COOH + สีแดง + น้ำยาล้างจาน
น้ำส้มสายชู 1 ขวดเล็ก
สีผสมอาหารสีแดง 2-3 หยด
จะทำให้เกิดน้ำปะทุไหลออกมา
·         NaHCO3      = โซเดียมไฮโดรเจนคาร์บอเนต หรือ ผงฟู
·         CH3COOH    = น้ำส้มสายชู
วิธีที่2 ด่างทับทิม + กรีเซอรอล จะเกิดเหมือนการประทุเป็นไฟออกมา
 การทำ
ภูเขา ใช้ ปูนขาว
การระเบิด ใช้ ผงฟู หรือ โซดาไฟ + น้ำส้มสายชู
ส่วน ไฟที่พุ่งออกมา ใช้ ด่างทับทิม + น้ำส้มสายชู


วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เคโรโระ ขบวนการอ๊บอ๊บป่วนโลก

เคโรโระ ขบวนการอ๊บอ๊บป่วนโลก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เคโรโระ ขบวนการอ๊บอ๊บป่วนโลก
Kerorogunso.jpg
ชื่อไทยเคโรโระ ขบวนการอ๊บอ๊บป่วนโลก
ชื่อญี่ปุ่นケロロ軍曹
ชื่ออังกฤษSgt. Frog หรือ Sergeant Keroro
ประเภทโชเน็น
แนวตลกล้อเลียน ไซไฟ
หนังสือการ์ตูน
ผู้แต่งมิเนะ โยชิซากิ
สำนักพิมพ์ธงชาติของญี่ปุ่น คาโดคาวะโชเต็น
ธงชาติของไทย สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์
นิตยสารโชเน็นเอซ
ตีพิมพ์เมื่อพ.ศ. 2542ปัจจุบัน
จำนวนเล่ม15 เล่ม
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
ผู้กำกับจุนอิจิ ซาโต้
ยูสุเกะ ยามาโมโตะ (ซีซั่นที่ 2)
โนบุฮิโระ คอนโด (ซีซั่นที่ 3 เป็นต้นไป)
ออกแบบตัวละครฟุมิโทชิ โออิซากิ
ผลิตโดยซันไรส์
ฉายทางธงชาติของญี่ปุ่น ทีวีโตเกียว
ธงชาติของไทย ทีไอทีวี, ช่อง 5 , Gang Cartoon Channel
ฉายครั้งแรก3 เมษายน พ.ศ. 2547 - 27 มีนาคม พ.ศ. 2554
จำนวนตอนธงชาติของญี่ปุ่น ทีวีโตเกียว 238 (15 พ.ย. 2551)
Wikikartoon.png ส่วนหนึ่งของสารานุกรมการ์ตูนญี่ปุ่น
เคโรโระ ขบวนการอ๊บอ๊บป่วนโลก (ญี่ปุ่น: ケロロ軍曹 Keroro Gunsō ?) (อังกฤษ: Sgt. Frog หรือ Sergeant Keroro) เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นแนวโชเน็น เขียนโดย มิเนะ โยชิซากิ (Mine Yoshizaki)

เนื้อเรื่อง

กองทัพเคโรน (ЯOЖOR) ได้เตรียมการยึดครองโลกมนุษย์ด้วยกำลังทหารแต่ในปฏิบัติการวันแรก สิบโทเคโรโระซึ่งเป็นหัวหน้ากองร้อยเคโรโระที่เข้ามาแทรกซึมบนโลกเป็นแนวหน้าได้ถูกพี่น้องฮินาตะจับตัวได้โดยบังเอิญ เมื่อกองทัพหลักทราบเรื่องจึงถอยทัพกลับ และสั่งให้พวกเคโรโระปฏิบัติการยึดครองโลกไปตามลำพัง พวกเคโรโระได้ดำเนินการสารพัดวิธี เพื่อหาทางยึดครองโพโคเพน (ชื่อดาวโลกที่มนุษย์ต่างดาวในเรื่องเรียก ในฉบับอะนิเมะเปลี่ยนชื่อมาเป็นเพโคปอง) แม้ว่าทุกครั้งจะประสบความล้มเหลวเพราะนิสัยของตัวเคโรโระเองก็ตาม ขณะเดียวกันก็ต้องปกป้องโลกจากอันตราย และมนุษย์ต่างดาวกลุ่มอื่นด้วย

 ตัวละคร

ตัวละครหลัก

ตัวละครประกอบ

ฮินาตะ อากิ
เป็นแม่ของนัทสึมิและฟูยูกิเป็นเสาหลักของบ้านฮินาตะเธอเป็นบรรณาธิการคนเก่งของแผนกหนังสือการ์ตูนที่งานยุ่งมากจนไม่มีเวลาอยู่กับลูก ๆ ซักเท่าไหร่แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังมีความผูกพันกับลูก ๆ อย่างเหนียวแน่นแล้วที่สำคัญถึงเธอจะมีลูกตั้งสองคนแล้วเธอก็เป็นคุณแม่ยังสาวที่หุ่นสวยเซ็กซี่มากแต่บางวิธีคิดของเธอก็ค่อนข้างแปลกกว่าคนอื่นซักหน่อยอย่างตอนที่รับเคโรโระเข้ามาอยู่ในบ้านเธอก็ตกลงอย่างแสนจะง่ายดาย เพราะ เธอกำลังสนใจตัวละครที่เป็นมนุษย์ต่างดาวอยู่ เธอยังได้สนิทกับคุรุรุมากที่สุด เพราะ เวลาเธอคุยกับคุรุรุเมื่อไหร่คุรุรุจะเข้าใจ และช่วยเธอให้สมหวังโดยการสร้างอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นมาและคุรุรุยังสร้างหุ่นยนต์ให้เธออีกด้วยเธอยังเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบ้านฮินาตะด้วย
มุทสึมิ ซาบุโร่ (มุทสึมิ 623)
เพื่อนรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกับพี่น้องฮินาตะเป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาดีแต่ไม่ค่อยมีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ถ้าเรียกดีๆหน่อยก็เรียกว่าคนลึกลับ แต่ก็ด้วยลักษณะนิสัยแบบนี้ละม้าง ถึงได้เป็นคู่หูกับสิบเอกคุรุรุได้แล้วนัทสึมิก็แอบชอบเขาอยู่ และเขาก็ชอบนัทสึมิอยู่บ้าง เขาได้ไปทำรายการมุทสึมิที่นัทสึมิชอบฟังโดยที่นัทสึมิไม่รู้ว่ามุทสึมิที่จริงแล้วก็คือรุ่นพี่ซาบุโร่ มีผมสีเทาใส่หมวกสัญลักษณ์คุรุรุ
คุรุรุสร้างปากกาให้โดยปากกานี้จะสามารถวาด หรือ เขียนอะไรแล้วจะเป็นความจริงขึ้นมา เคยช่วยเคโรโระไว้ตอนที่เกือบจะตายซาบุโร่ได้ใช้ปากกาวาดภาพเคโระบอลออกมาช่วยเคโรโระอีกด้วย ในภาคมังงะใช้ชื่อว่า มุทสึมิ โฮโจ้
แองโกล โมอา (มัว)
ลูกสาวของเผ่าแองโกลที่อาศัยอยู่ในอวกาศตัวจริงของเธอคือจอมราชาแห่งความน่ากลัวผู้ที่จะมาทำลายล้างโลก ความจริงเธอน่าจะมาถึงโลกตั้งแต่ปี 1999 แต่เพราะหลับเพลินไปเกือบ 5 ปีก็เลยมาที่ญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 20 เธอรู้จักกับเคโรโระมาตั้งแต่เด็กแถมยังหลงรักเคโรโระด้วยที่เธอยังไม่ลงมือทำลายโลกก็เพราะ เคโรโระนี่แหละ
ปกติเธอจะใช้ชีวิตในร่างของนักเรียน ม.ปลายคอยให้ความช่วยเหลือเคโรโระ และตอนที่มีใครมาทำร้ายเคโรโระ โมอาก็จะแปลงกายเป็นแองโกลโมอา และใช้พลังทำลายคนคนนั้นด้วยอามาเกด้อนเป็นคล้ายๆหอกเทพด้านบนเป็นรูปพระจันท์ครึ่งเสี้ยวด้านล่างเป็นรูปค้อนกลมๆใหญ่ๆ และยังเรียกเคโรโระว่าคุณอาอีกด้วยในเรื่องเธอได้ทำลายโลกไปสามครั้งแต่ไม่สำเร็จ
นิชิซาว่า โมโมกะ
ลูกสาวของตระกูลนิชิซาว่าซึ่งเป็นตระกูลอภิมหาเศรษฐีระดับโลกโมโมกะไปเจอทามามะโดยบังเอิญแถมยังใจดีให้ที่พักพิงแก่ทามามะโดยไม่ไปแจ้งตำรวจ แต่ความจริงก็ไม่ได้ใจดีอะไรหรอกทีทำไปเพื่อเอาทามามะซึ่งเป็นมนุษย์ต่างดาวมาเป็นข้ออ้างที่จะได้ใกล้ชิดกับฟูยูกิซึ่งชอบเรื่องลึกลับต่างหาก โมโมกะเป็นเด็กสาวมีสองบุคลิกเหมือนกับทามามะ ปกติเธอจะเป็นเด็กสาวที่ขี้อายที่แอบชอบฮินาตะฟูยูกิมาตั้งแต่ชั้นประถมแต่อีกด้านหนึ่งเธอจะเป็นเด็กสาวที่บู๊แหลกลาญเลยล่ะ โมโมกะจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับฮินาตะฟูยูกิเก่งกีฬาทุกประเภทเธอเป็นสมาชิกคนที่สองของชมรมเรื่องลึกลับ เพราะจะได้ใกล้ชิดกับฟูยูกิเวลาเธอโกรธผมสองแง่จะตั้งแหลมขึ้น และบู๊แหลกลาญจะออกร่างโหดก็ต่อเมื่อเวลาโกรธ โมโมกะมีเกราะพาวเวอร์สูทเหมือนกับนัทสึมิแต่รูปร่างจะไม่เหมือนกัน
ท่าไม้ตายของโมโมกะ คือ โมโมกะอิมแพ็คซึ่งจะคล้ายๆกับทามามะอิมแพ็คโมโมกะเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีเวลามีใครมาเข้าใกล้ฟูยูกิ หรือ มาสนิทกับฟูยูกิโมโมกะจะหึงมาก และกลายเป็นอีกคนหนึ่งเช่นเดียวกับทามามะนั่นเอง
อาสึมายะ โคยูกิ
สาวน้อยนินจาจากหมู่บ้านนินจาโอคุโตเกียวอยู่ในประเทศญี่ปุ่นเธอเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนที่โรงเรียนเดียวกับพี่น้องฮินาตะไม่ได้นานก็ได้รู้จักกับโดโรโระเธอให้ที่พักพิงแก่โดโรโระ และยังร่วมมือกับโดโรโระปฏิบัติภารกิจพิทักษ์โลกอีกด้วยถึงเธอจะยังเป็นเด็กแต่เรื่องฝีมือนี่รับรองเฉียบขาดมากชนิดที่พวกมนุษย์ต่างดาวกินเธอไม่ลงเลยแถมยังเป็นเพื่อนกับนัทสึมิอีกเวลาเป็นนินจาจะมีผ้าสีฟ้าปิดขอบตาไว้เพื่อเวลาสู้รบตาจะได้ไม่หันเหไปทางอื่นมุ่งอยู่ที่การต่อสู้
โคยูกิชอบไปดื่มชากับโดโรโระปัจจุบันบ้านที่เธออาศัยอยู่เป็นบ้านไม้ทำด้วยไม้ไผ่อยู่ในป่าลึกกับโดโรโระ
โมริยาม่า พอล
พ่อบ้านของบ้านนิชิซาว่าส่วนใหญ่จะคอยดูแลโมโมกะเป็นส่วนใหญ่เห็นบุคลิกสุขภาพนุ่มนวลแบบนี้ความจริงแล้วเขายังเป็นหัวหน้าทีมต่อสู้เพื่อปกป้องคุ้มครองบ้านนิชิซาว่าด้วยนะพลังความสามารถของเขาสุดจะหยั่งเลยล่ะ สมัยก่อนเขาเคยเป็นทหารรับจ้างระดับแนวหน้ายศพลตรีอยู่ที่ประเทศฮอลแลนด์ พอลมาเป็นพ่อบ้านของบ้านนิชิซาว่าก็ เพราะว่า พอลเคยสัญญาว่าถ้าต่อสู้แล้วแพ้ก็จะเป็นคนรับใช้ การต่อสู้ในสตรีทไฟช์กับพ่อของโมโมกะที่ชื่อ ไบโอแล้วแพ้จึงมาเป็นคนรับใช้ เป็นศัตรูกับสิบตรีกิโรโระอีกด้วย เพราะฝีมือเท่ากันจึงจะต่อสู้เพื่อหาผู้เก่งกว่า
นักสืบอวกาศโคโกโร่ (556)
เป็นเพื่อนของเคโรโระตั้งแต่เด็กอยากจะเป็นตำรวจอวกาศแต่สอบตกจึงมาตั้งสำนักงานนักสืบแทน โคโกโร่จะหัวเราะตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ในอารมณ์ไหนก็ตามและมีเพียงน้องสาวราบี้เท่านั้นที่อ่านสีหน้าหรืออารมณ์เขาออก
เคโรโระเคยช่วยโคโกโร่หางานให้แต่ก็ไม่สำเร็จโคโกโร่จึงต้องตกงานทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นงานตำรวจอวกาศหรืองานนักสืบไม่ค่อยมีบทบาทในเรื่องสักเท่าไหร่
โคโกโร่ชอบหัวเราะตลอดเวลา มีสัญลักษณ์เลขคือ 556 จะแปลงกายได้เวลาโกรธ หรืออารมณ์ร้อนเท่านั้นส่วนสูง 198 ซม.น้ำหนัก 52 กิโลกรัม และตั้งแต่โดนไล่ออกก็ได้แต่นอนที่โรงแรมโอคุ นอนบนตู้เก่าๆ เพราะไม่มีเตียงจึงต้องลำบากหน่อยแต่ไม่ถึงกับว่าไม่มีอะไรเลย เพราะยังมีราบี้ได้ไปแสดงหนังและหาเงินมาช่วยโคโกโร่
ราบี้
เป็นน้องสาวของโคโกโร่เธอมีความสามารถพิเศษคืออ่านใจโคโกโร่ได้ตอนนี้เธอทำงานอยู่ที่หน้าร้านขายของเธอตั้งร้านขายเนื้อหมูเนื้อไก่และราบี้ยังได้ทำงานนั่นก็คือการแสดงหนังเรื่องจัสติราบี้พอมีเงินบ้างและราบี้ยังมีปืนติดเครื่องจับหาคนอีกด้วยไม่ว่าโคโกโร่จะทำอะไรราบี้จะช่วยทุกอย่าง
ซูโมโมะ
ซูโมโมะเป็นชาวอโปตรอนสามารถแปลงร่างได้ตามใจในหนังสือซูโมโมะเป็นนักร้องไอด้อลชื่อดังอวกาศซึ่งเคโรโระชื่นชอบเขาเอามากๆ แต่ชาวเพโคปองกลับไม่มีใครรู้จักเธอเลยแม้แต่คนเดียวมีเพียงฟูยูกิและนัทสึมิที่คอยให้ความช่วยเหลือแก่เธอจึงทำให้เธอรู้จักมิตรภาพ และได้กลับไปดาวเคโรนเหมือนเดิมเธอเป็นมนุษย์ต่างดาวที่มาหาความรักบนโลกแต่ก็ไม่พบเธอมีสัญลักษณ์เป็นรูปหัวใจด้านข้างเป็นคล้าย ๆ ลูกโป่งสามแฉกตัวสีชมพูปนขาว และเวลาตอนเธอแปลงร่างเป็นมนุษย์ก็มีรูปร่างคล้ายกับนัทสึมิและฟูยูกิก็เกิดอาการปิ๊งเธอขึ้นมาทันที
ร้อยโทการูรุ
เป็นหัวหน้ากองกำลังพิเศษสังกัตการบุกยึดจักรวาลหัวหน้าหน่วยจู่โจมพิเศษมาจากดาว เคโรนเป็นพี่ชายของสิบตรีกีโรโระมีความสามารถในการยิงปืนแม่นมากกว่ากีโรโระถึงห้าเท่า เคยมาที่โลกเพื่อช่วยในการยึดโลกแต่ที่จริงแล้วมาทดสอบฝีมือของพวกเคโรโระ ว่าจะสามารถยึดครองดาวเพโคปองได้ต่อหรือไม่ แต่พอเห็นความสามารถของพวกเคโรโระแล้วก็ชื่นชมและกลับดาวไป การุรุชอบขัดปืนเหมือนกับกีโรโระมีสัญลักษณ์รูปลูกไฟตัวสีส้มปนแดงมือข้างซ้ายไม่ค่อยถนัดในการจับสิ่งของเพราะ 2 ปี ที่ผ่านมาในวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2541ได้สู้กับกองทัพมนุษย์ต่างดาวอีกฝ่ายเลยใช้แขนข้างซ้ายไม่ค่อยถนัด
ในภาคอะนิเมะระบุว่าการูรุมีฉายาว่า ฝันร้ายแห่งเกโรมอน ซึ่งล้อเลียนตัวละคร อนาเวล กาโต้ ในกันดั้ม 0083 การูรุยังใช้ปืนและโล่ซึ่งมีลักษณะแบบเดียวกับกันดั้มไฟซาลิสอีกด้วย
ทารูรุ
รุ่นน้องของทามามะซึ่งนับถือทามามะมาก และเวลาทามามะพูดอะไรก็เชื่อไปซะทุกอย่าง ทารูรุจะเรียกทามามะว่าอาจารย์ด้วยครั้งแรกที่ปรากฏตัวจะมีหางลูกอ็อดเหมือนกับทามามะด้วยแต่ในเวลาต่อมาได้เป็นหนึ่งในกองกำลังยึดจักรวาลที่อยู่กับการูรุ และไม่มีหางเพราะเริ่มโตขึ้นเมื่อพ่ายแพ้ทามามะก็ยิ่งนับถือเข้าไปใหญ่เลยทีเดียว ทารูรุหน้าเหมือนทามามะมากมีสัญลักษณ์เป็นรูปถั่วมีเส้นแบ่งครึ่งตรงกลางข้างหนึ่งสีเหลืองอีกข้างสีน้ำเงินอ่อน ตัวเป็นสีน้ำเงินอ่อนทารูรุเป็นมนุษย์ต่างดาวที่ชอบพูด พูดซะจนทามามะโดนอัดซะน่วมไปแล้ว เพราะว่าทามามะเคยไปคุยโอ้อวดว่าตัวเองเก่งกว่าใครเลยสุดท้ายก็ให้ทารูรุรีบกลับไปเพราะไม่งั้นโดนหนักกว่านี้แน่แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะทารูรุก็เป็นมนุษย์ต่างดาวที่น่ารัก
เวเทิลแมน
เป็นมนุษย์ต่างดาวที่พวกของเคโรโระสร้างขึ้นเพื่อแก้แค้นนัทสึมิ เวเทิลแมนเป็นตัวคล้ายซูปเปอร์ฮีโร่แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จโดนนัทสึมิอัดซะอ่วมไปเลยเคโรโระจึงไม่ใช้งานเวเทิลแมนอีกเลยเวเทิลแมนมีลักษณะตัวสีดำใส่หมวกเกราะแต่กำลังน้อยมีสัญลักษณ์เป็นรูปดาวกระจายแปดแฉกเวเทิลแมนถูกพวกเคโรโระ
ได้รับฉายาว่า อสูรแห่งการพ่ายแพ้ วันที่ถูกทำลายทิ้งคือวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550 พอหลังจากนั้นก็ไม่ใช้งานเวเทิลแมนอีกเลย
เมสันอาร์ค
เป็นปีศาจที่พวกเคโรโระสร้างขึ้นเพื่อให้โลกมนุษย์ และพวกมนุษย์หมดอาลัยตายอยากแต่ด้วยความที่อาร์คไม่แกร่งพอที่จะรับมือกับคนแกร่งแห่งบ้านฮินาตะอย่างนัทสึมิได้จึงต้องล้มเลิกแผนการนี้ และไม่ใช้งานอาร์คอีกเลยอาร์คถูกผลิตที่โรงงานกันพลาในเมืองโอคุโตเกียว และพอหลังจากนั้นตอนพิเศษคือเคโรโระขบวนการอ๊บอ๊บป่วนโลก สุดยอดเดอะมูฟวี่ 5 ตอนผจญภัยดินแดนพีระมิด ซึ่งอาร์คได้ออกกมาช่วยพวกเคโรโระเอาไว้
คาราระ
เป็นชาวดาวเคโรนเหมือนกับเคโรโระแต่เป็นผู้หญิงซึ่งคาราระรักทามามะมาก และจะขอเป็นภรรยาด้วยแต่ทามามะไม่อยากเป็นจึงหาข้ออ้างต่างๆ เพื่อให้คาราระเกลียด แต่เพื่อน ๆ กับส่งเสริมให้ทามามะ ทามามะจึงต้องตัดสินใจงัดแผนสุดท้ายออกมาใช้นั่นก็คือการปิดผนึกทามามะอิมเพ็คแต่ทำอย่างไรคาราระก็ไม่เกรียด ทามามะจึงต้องยอมไปก่อนแต่สุดท้ายคาราระโดนพ่อมาตามกลับดาวเคโรน เพราะคาราระไม่ได้บอกพ่อเรื่องแต่งงานแต่ทามามะสู้ไม่ไหวและเพื่อน ๆก็สู้ไม่ไหวมีคนเดียวที่หยุดพ่อของคาราระได้นั่นก็คือสิบเอกคุรุรุใช้ปืนรังสีคุรุรุไนท์แอนด์ออฟพิชเช้ลสูทจึงทำลายยานได้คาราระจึงเปลี่ยนใจไปหลงรักคุรุรุเข้า แต่พอจะกลับมาขอคุรุรุก็กลับโดนไล่ด้วยความซนของคาราระแล้วก็ไปเล่นซนในหุ่นยนต์ยึดเพโคปอง และกดปุ่มระเบิดตัวเองแต่โดโรโระมาช่วยก็เลยหลงรักโดโรโระ ต่อมาก็มาเป็นกิโรโระ หลังจากนั้นก็มาเป็นเคโรโระ
เนบิวล่า
สิ่งมีชีวิตจากดาร์คโซน รูปร่างกลมดำมีหูสองข้าง แต่มีตาเดียว เขาเป็นดาร์กฮันเตอร์ คอยตามล่าเผ่าพันธุ์แห่งความมืด ซึ่งก็คือ พวกมนุษย์ต่างดาว วิญญาณนั่นเอง แม้เนบิวลาจะจำรายละเอียดไม่ได้แล้ว แต่เดิมทีเขามาจากเนบิวลามืดซึ่งถูกเผ่าแองโกลทำลายไปแล้ว ในเวลาปกติเนบิวลาจะอยู่ในสภาพที่คาดหัวของอลิซ่า และเปลี่ยนร่างตามการใช้งาน
อลิซ่า เซาเทิร์นครอส
เด็กผู้หญิงที่เนบิวล่าเลี้ยงไว้เหมือนลูกสาว เพื่อออกเดินทางหาวิธีให้เธอกลายเป็นมนุษย์จริงๆ หลงรักฟูยุกิอยู่ ปกติแล้วจะหน้าดุ และไม่ค่อยฟังใครนัก
ไวเปอร์
ศัตรูคู่แค้นตลอดกาลของกองทัพเคโรน สวมชุดแดงรัดรูปและคาบซิการ์ มีปืนไซโคกัน คล้ายกับคอบร้าในเรื่อง คอบร้า เห่าไฟสายฟ้า

[แก้] ไอเท็ม

  • เคโระบอล - อุปกรณ์ลักษณะคล้ายลูกบอลสีดำ สามารถเนรมิตรทำอะไรได้ทุกอย่าง จำเป็นอย่างมากสำหรับหัวหน้าทีม
  • หมวกกองทัพดาวเคโรน - หมวกธรรมดา แต่พิเศษตรงที่มีแอนตี้บาเรีย ป้องกันไม่ให้มนุษย์โลกเห็น (ยกเว้น คนในบ้านฮินาตะ ที่สามารถมองเห็นได้ และสามารถเลือกได้ว่าให้ใครเห็นได้อีกด้วย)
  • ปืนถ้าชีวิตมีสองครั้ง - ปืนที่ประดิษฐ์โดยคุรุรุ เป็นปืนที่ยิงแล้ว คนที่ถูกยิงนั้นกลายร่างเด็ก
  • ปืนกระโดดสู่ความเป็นผู้ใหญ่ - ปืนที่ยิงแล้ว คนที่ถูกยิงนั้นกลายร่างเป็นผู้ใหญ่
  • ปืนไร้เทียมทาน - ปืนที่เปลี่ยนชาวเพโคปองเป็นยักษ์สาวพลังไฟฟ้าที่น่าหลงใหลได้ (คนที่ถูกยิงจะแต่งตัวคล้ายๆกับ ลามู)
  • เพโคปองสูท (โพโคเพนสูท) - เป็นชุดพิเศษออกแบบให้เหมือนกับร่างกายของมนุษย์ เหมาะสำหรับชาวเคโรน
  • ปากกาวิเศษ - เป็นปากกาของ623 (มุทซึมิ) หรือ ซาบุโร่ ที่คุรุรุประดิษฐ์ให้ เป็นปากกาที่สามารถวาดสิ่งของออกมาเป็นจริงได้โดยเขียนรูปแล้ว By.623 จริงๆปากกานี้มีอยู่2ด้ามแต่คุรุรุบอกว่าหายไปในวันที่เจอกับซาบุโร่ เคโรโระกับทามามะและกิโรโระก็เข้าไปในความทรงจำของคุรุรุในวันที่เจอกับซาบุโร่เพื่อเอามาใช้ในการรุกราน สุดท้ายปากกาด้ามนั้นก็ถูกทำลายด้วยฝีมือของทามามะในอดีต ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่เคโรโระลอบเข้าไปในโรงเรียนของพวกฟุยูกิและเจอกับทามามะที่โลก ในตอนนั้นจะมีช่วงที่ทามามะยิงทามามะ อิมแพ็ค ซึ่งตอนที่ยิงคือตอนที่ปากกาถูกทำลาย (และเคโรโระในตอนปัจจุบันก็โดนลูกหลงไปด้วย)
  • เคโรนิคัลครัช เชลซิ่ง คริสตัล สแลมดังค์ - ท่าไม้ตายสุดยอดของกองทัพเคโรโระ (เมื่อครบ 5 คน) ปรากฏตอนที่ 56 ในฉบับมังงะ ลักษณะเป็นการสร้างลูกบอลพลังและส่งต่อกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเหลือให้โดโรโระ เพื่อเผด็จศึก (โดโรโระทำท่าเลียนแบบซากุรางิ ในสแลมดังค์) (ลอกโกเรนเจอร์มาดุ้นๆ นับว่าเก่งมากที่ไอ้คนวาดไม่โดนเก็บค่าลิขสิทธิ์)
  • ปืนเปลี่ยนสัตว์เป็นอาวุธสงคราม - ปืนเปลี่ยนสัตว์โลกในเพโคปองให้กลายเป็นมนุษย์ มีจุดประสงค์เพื่อชักชวนให้เข้าร่วมกองทัพเคโรน (แต่ก็ไร้ผล)
  • ซูเปอร์ อาร์มอร์ - เกราะพิเศษพัฒนาโดยนิชิซาว่ากรุ๊ป เป็นชุดรบสำหรับโมโมกะ
  • นาโนล่า - ของเหลวที่อิ่มตัวด้วยนาโนแมคชีน สามารถเปลี่ยนวัตถุให้กลายเป็นอาวุธสงคราม
  • แองโกลสโตน - หินที่ชาวดาวแองโกลแพ้ทาง สามารถขังชาวแองโกลไว้ในนั้นได้
  • ลูกบอลอิจฉา - เป็นท่าไม้ตายอีกท่าของทามามะ ที่รวบรวมความอิจฉาริษยาที่เกิดขึ้น แล้วปลดปล่อยออกมาเป็นลูกบอลสีดำ (ล้อ บอลเกงกิ ในดราก้อนบอล)
  • เนียวโรอวกาศ - สิ่งมีชีวิตกึ่งพืชกึ่งสัตว์อาศัยอยู่ริมน้ำบนดาวเคโรน ใช้แทนเชือกได้
  • ตับเคลเบรอสอวกาศ - มีสรรพคุณในการรักษาโรคสารพัดชนิดให้หายดี แต่กว่าจะได้มันมานั้นยากน่าดู
  • ปลิงอวกาศ - สิ่งมีชีวิตดาวเคโรนอยู่ตามแหล่งน้ำ มีประโยชน์ในทางการทหารเพื่อเค้นเอาคำตอบจากเหยื่อ
  • โอโคโนมิยากิอวกาศ FX - โอโคโนมิยากิเวอร์ชันอวกาศ ที่ชวนแหวะซะเหลือเกิน
  • แฟลชพูล - เป็นช้อนที่เมื่อชูขึ้นบนฟ้าจะขยายร่างได้ (ล้อ เบต้าแคปซูลในอุลตร้าแมน แต่มีเวลาอยู่ 3 วัน)
  • อามาเกด้อน - พลังของท่านมัว จะมีระดับที่แตกต่างกัน จาก 1/ล้านล้าน ที่เคยทำให้ฐานทัพเคโรโระพังไปแล้ว ไปจนถึง 1/1 ที่สามารถทำให้โลกแหลกสลายได้

เทพอสูรจิ้งจอกเงิน

เทพอสูรจิ้งจอกเงิน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เทพอสูรจิ้งจอกเงิน
เทพอสูรจิ้งจอกเงิน
เทพอสูรจิ้งจอกเงิน
ชื่อไทยเทพอสูรจิ้งจอกเงิน
ชื่อญี่ปุ่น犬夜叉
ชื่ออังกฤษInuyasha
ประเภทโชเน็น
แนวแอ็คชั่น,ต่อสู้
หนังสือการ์ตูน
ผู้แต่งทากาฮาชิ รูมิโกะ
สำนักพิมพ์ธงชาติของญี่ปุ่น โชงะกุกัง
ธงชาติของไทย สยามอินเตอร์คอมิกส์
นิตยสารธงชาติของญี่ปุ่น โชเนนซันเดย์
ตีพิมพ์เมื่อ25392551
จำนวนเล่ม56 เล่ม 558 ตอน อวสาน
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
ผู้กำกับมาซาชิ อิเคดะ
ยาสุนาโอะ อาโอกิ
ออกแบบตัวละครโยชิฮิโตะ ฮิชินุมะ
ผลิตโดยซันไรส์
ฉายทางธงชาติของญี่ปุ่น โยมิอุริทีวี, Nippon TV
ธงชาติของไทย
โมเดิร์นไนน์ ทีวี , แอนิแมกซ์เอเชีย
ฉายครั้งแรก16 ตุลาคม 2543 - 13 กันยายน 2547
จำนวนตอน167 ตอน
ภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์
InuYasha: The Final Act
ผลิตโดยซันไรส์
ฉายทางธงชาติของญี่ปุ่น โยมิอุริทีวี , แอนิแมกซ์เอเชีย
ฉายครั้งแรก3 ตุลาคม 2552 - 29 มีนาคม 2553
จำนวนตอน26 ตอน
Wikikartoon.png ส่วนหนึ่งของสารานุกรมการ์ตูนญี่ปุ่น
เทพอสูรจิ้งจอกเงิน หรือ อินุยาฉะ (ญี่ปุ่น: 犬夜叉 Inuyasha จาก อินุ "สุนัข" + ยะชะ "ปีศาจ,อสูร (คำสันสกฤต ภาษาญี่ปุ่น)" ?) เป็นชื่อหนังสือการ์ตูนและอะนิเมะซึ่งแต่งโดย ทากาฮาชิ รูมิโกะ พิมพ์ในนิตยสารโชเนนซันเดย์รายสัปดาห์ เริ่มตอนแรกเมื่อ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 และปิดฉากตอนสุดท้ายลงเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2551
สำหรับในประเทศไทย อินุยาฉะ ได้รับลิขสิทธิ์โดย TIGA แต่สำหรับภาค Final Act ได้รับลิขสิทธิ์โดย Rose และออกอากาศทางฟรีทีวี ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ในช่วงโมเดิร์นไนน์การ์ตูน เวลา 09.30-10.00 น. โดยเริ่มออกอากาศปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2547 แต่พอถึงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2547 ก็ถูกยุติการออกอากาศ โดยนำเรื่อง มุซาชิ เซียนเบ็ดยอดอัจฉริยะมาออกอากาศแทน หลังจากนั้น ในปี พ.ศ. 2548 อินุยาฉะก็กลับมาออกอากาศอีกครั้ง จนถึงเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2548 และออกอากาศต่อเนื่องอีกครั้ง ตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม ถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 หลังจากที่ห่างหายไป 4 ปี และเริ่มมาการสร้างภาคที่ 5 และภาคอวสานที่ชื่อว่า Inuyasha Kanketsu-hen

[แก้] เนื้อเรื่อง

อินุยาฉะ เป็นลูกครึ่งอสูรซึ่งเกิดจากพ่อผู้เป็นจอมปีศาจจิ้งจอกผู้ยิ่งใหญ่ แต่มีแม่เป็นมนุษย์ จึงทำให้อินุยาฉะมีปมด้อยและไม่เป็นที่ยอมรับทั้งจากบรรดาปีศาจหรือมนุษย์ธรรมดา จากการไม่เป็นที่ยอมรับนั้นเองที่เป็นเหตุผลให้เขาต้องการลูกแก้วสี่วิญญาณ(ลุกแก้วอสูร)เพื่อที่จะกลายเป็นอสูรอย่างเต็มตัว แต่การที่จะได้ลูกแก้วมานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะลูกแก้วดังกล่าวได้รับการพิทักษ์จาก คิเคียว ผู้เป็นมิโกะศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน ดังนั้นเขาและคิเคียวจึงมีเหตุให้ต้องประฝีมือกันอยู่เนืองๆ แต่ว่าอินุยาฉะก็ทำร้ายคิเคียวไม่ลงดังเช่นที่คิเคียวก็ไม่ยอมทำร้ายอินุยาฉะเช่นเดียวกันเนื่องจากคนทั้งคู่ต่างก็มีใจให้กัน
ต่อมาคิเคียวและอินุยาฉะได้คุยกันถึงการตัดสินใจมอบลูกแก้วให้อินุยาฉะได้อธิษฐานให้ตนเองกลายเป็นมนุษย์เต็มตัวเพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างคนธรรมดา แต่เหตุการณ์ได้กลับตาลปัตรในรุ่งอรุณของวันที่คิเคียวต้องส่งมอบลูกแก้วสี่วิญญาณให้กับชายคนรัก เพราะโจรป่าโอนิคุโมะ ผู้รวมร่างกับปีศาจจนกลายเป็น นาราคุ (นาราคุ แปลว่า นรก) มีความต้องการในตัวคิเคียวจึงทำให้ทั้งคู่ผิดใจกันด้วยการปลอมตัวเป็นคนทั้งสองให้ต่างฝ่ายต่างลอบทำร้ายซึ่งกันและกัน ในที่สุดอินุยาฉะก็พลาดท่าถูกคิเคียวยิงด้วยธนูปิดผนึกให้หลับไหลอยู่ข้างต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนตัวเธอเองพร้อมกับรอยบาดแผลที่สาหัส ได้สั่งเสียก่อนตายกับ คาเอเดะ ผู้เป็นน้องสาวของเธอว่าให้เผาลูกแก้วสี่วิญญาณไปพร้อมกับร่างกายของเธอเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกแก้วตกไปอยู่ในมือของปิศาจอีกต่อไป
ต่อมาเมื่อเวลาได้ล่วงเลยมาจนถึงยุคปัจจุบัน คาโงเมะ สาวน้อยวัยมัธยมต้นไม่เคยรู้มาก่อนว่าวิญญาณของคิเคียวได้กลับมาเกิดใหม่ในร่างของเธอ จนกระทั่งในวันที่เธอมีอายุครบ 15 ปี คาโกเมะได้ถูกปิศาจตะขาบลากไปในยุคแห่งสงครามระหว่างมนุษย์กับปีศาจ (ยุคของอินุยาฉะ) ทางบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อว่าบ่อกลืนกระดูก ในระหว่างการหลบหนีปีศาจตัวดังกล่าวนี้เองทำให้คาโกเมะได้พบกับอินุยาฉะและได้ปลุกเขาให้ตื่นจากการหลับไหลนานถึง 50 ปี อีกทั้งได้ค้นพบว่าในร่างกายของตัวเธอเองนั้นมีลูกแก้วสี่วิญญาณที่สมควรจะหายไปตั้งแต่ถูกเผาไปพร้อมกับร่างกายของคิเคียวในเวลาหลายร้อยปีก่อนหน้านี้
เรื่องราวแห่งโชคชะตาดูจะไม่จบอยู่แค่นั้นเพราะหลังจากที่ข้ามผ่านเวลามาในโลกแห่งอดีตได้ไม่นานนัก ลูกแก้วสี่วิญญาณก็ได้แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ ชิ้นส่วนของลูกแก้วนั้นกระจัดกระจายไปไกลเป็นสิบหรือร้อยชิ้นก็สุดจะคาดเดา คาโกเมะและอินุยาฉะจึงจำต้องจับคู่กันเพื่อตามหาเศษลูกแก้วให้กลับมารวมกันให้ได้ก่อนที่คนชั่วและปีศาจร้ายจะได้มันไว้ในครอบครอง และนั่นเองคือจุดเริ่มต้นให้ศึกชิงลูกแก้วสี่วิญญาณได้เปิดฉากขึ้น
และการเดินทางที่ยาวนานเสี่ยงอันตรายที่มาพร้อมกับการต่อสู้อันดุเดือดเพื่อรวบรวมเศษลูกแก้วที่กลายเป็นการเดินทางไปปราบนาราคุโดยปริยายนั้นเองที่ได้ก่อร่างสร้างเรื่องราวแห่งมิตรภาพ ความรัก และการค้นพบตัวเองของลูกครึ่งปีศาจผู้นี้ อินุยาฉะได้ต่อสู้กับ เส็ตโซมารุ พี่ชายต่างมารดาที่เป็นอสูรเต็มตัว เพื่อแย่งชิง ดาบเขี้ยวอสูร ซึ่งเป็นมรดกตกทอดจากเขี้ยวของท่านพ่อ ต่อมาอินุยาฉะได้ครอบครองดาบเล่มนี้และใช้ดาบเขี้ยวอสูรเป็นอาวุธคู่กายเพื่อช่วยในการรวบรวมเศษลูกแก้วสี่วิญญาณตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อีกทั้งในการผจญภัยครั้งนี้อินุยาฉะได้ร่วมทางไปกับมิตรแท้อย่าง ชิปโป ลูกของปิศาจจิ้งจอกซึ่งพ่อถูกฆ่าตายโดยปีศาจอสูรสายฟ้า, มิโรคุ นักบวชทุศีลจอมลามกที่มีช่องว่างแห่งลมที่มือขวา, และ ซังโกะ ลูกหัวหน้าหมู่บ้านนักปราบปิศาจ ที่มากับคิราร่า ปีศาจแมวสองหางที่เป็นพาหนะคู่ใจ (ปีศาจแมวตัวนี้เคยเป็นแมวคู่ใจของมิโดริโกะมาก่อน) จนกระทั่งได้จัดการกับนาราคุ และร่างแบ่งภาคของนาราคุที่ฝากความแค้นให้กับทุกคนได้ในที่สุด นอกจากนี้แล้วอินุยาฉะยังต้องพบเจอกับเรื่องราวของความรักความผูกพันระหว่างเขากับคาโกเมะที่แทรกเข้ามาในการเดินทางครั้งนี้อีกด้วย

[แก้] ตัวละคร

อินุยาฉะ (Inuyasha) 
ดูบทความหลัก: อินุยาฉะ (ตัวละคร)
เด็กหนุ่มลูกครึ่งปีศาจผู้มีเลือดผสมจากจอมปิศาจจิ้งจอกเงินและมารดาผู้เป็นเจ้าหญิงชาวมนุษย์ชื่ออิซาโยอิ เกิดในคืนจันทรุปราคา เป็นคนปากไว มุทะลุ เกลียดการพ่ายแพ้ ขี้เก๊ก โลเล แถมยังไม่เป็นสุภาพบุรุษ แต่ว่ามีจิตใจดีชอบช่วยเหลือผู้อื่น แรกเริ่มอินุยาฉะต้องการลูกแก้วสี่วิญญาณเพื่อจะเป็นปิศาจที่สมบูรณ์ดังเช่นครึ่งอสูรคนอื่นๆ และชอบพออยู่กับคิเคียว มิโกะผู้รักษาลูกแก้ว ต่อมาถูกนาราคุทำให้ผิดใจกันจนถูกคิเคียวยิงด้วยธนูปิดผนึกให้หลับไหลอยู่ข้างต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นานถึง 50 ปี ต่อมาเขาได้พบกับ คาโกเมะ สาวน้อยผู้เป็นร่างใหม่ของคิเคียวในชาติที่แล้วมาปลดผนึกให้ ทั้งคู่จึงตกลงใจมาร่วมกันรวบรวมเศษลูกแก้วและต่อสู้กับศัตรูตัวฉกาจอย่างนาราคุ อินุยาฉะมีดาบเขี้ยวอสูรซึ่งตีมาจากเขี้ยวของบิดาเป็นอาวุธประจำกาย ใช้เพื่อปกป้องตนเองและผนึกสัณชาตญาณปีศาจซึ่งจะตื่นขึ้นมาในเวลาที่เกิดอันตรายถึงชีวิต โดยมีท่าไม้ตายคือ แผลแห่งลม และ พลังไหลระเบิด (บทพากย์ฉบับโมเดิร์นไนน์การ์ตูนใช้ชื่อว่า พลังคลื่นระเบิด) ที่จะจบชีวิตศัตรูได้ในการจู่โจมแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ทว่าอินุยาฉะจะไม่มีพลังปิศาจและกลายเป็นมนุษย์ในคืนที่พระจันทร์หายลับไปจากท้องฟ้า จุดอ่อนคือ เดือนดับ อาหารรสจัด กลิ่นเหม็น น้ำตาผู้หญิง และคำว่า "นั่งลงเดี๋ยวนี้" ของคาโกเมะ
ฮิคุราชิ คาโกเมะ (Kagome) 
สาวมัธยมต้นธรรมดาๆอาศัยอยู่ในศาลเจ้าฮิงุราชิกับ ปู่ แม่ และน้องชาย แต่ในวันเกิดครบรอบ 15 ปี เธอถูกปีศาจตะขาบพามาที่ยุคสงครามเมื่อ 500 ปีก่อนเพื่อที่จะพบกับอินุยาฉะที่ถูกคิเคียวผนึกไว้ คาโกเมะผู้ซึ่งเป็นวิญญาณของคิเคียวกลับชาติมาเกิดได้ไปปลดผนึกอินุยาฉะออก เธอและอินุยาฉะจึงได้มาเป็นคู่หูในการรวบรวมเศษลูกแก้วสี่วิญญาณหลังจากเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้ลูกแก้วสี่วิญญาณแตกและกระจายไปทั่ว คาโกเมะเป็นคนใจกว้าง มองโลกในแง่ดี และมีจิตใจที่บริสุทธิ์ (แม้บางทีอาจจะติดระแวงหรือขี้หึงเล็กๆ แต่มักเก็บเอาไว้คนเดียว) เป็นผู้ที่มีพลังในการชำระล้างความชั่วร้าย ธนูของเธอสามารถทำลายไอปีศาจรวมทั้งต่อสู้กับปีศาจได้เก่งกล้าไม่แพ้อาวุธของคนอื่นๆ นอกจากนี้เธอยังมีไม้เด็ดก็คือ คำสั่ง "นั่งลงเดี๋ยวนี้" ซึ่งเป็นอาคมที่จะฉุดประคำที่คอของอินุยาฉะให้เขาสงบลง หยุดการเคลื่อนไหว หรือใช้เพื่อทำโทษอินุยาฉะได้ชะงักนัก ส่วนในโลกปัจจุบันนั้นคาโกเมะมีเพื่อนสนิทชื่อว่า ยูกะ เอริ และอายูมิ และมีเพื่อนร่วมทางเพื่อไปรวบรวมลูกแก้วสี่วิญญาณคือ มิโรคุ ซังโกะ ชิบโป และคิราร่า คาโกเมะมีหนุ่มๆหลายคนที่หมายปองคือ โคงะ หัวหน้าหมาป่าอสูร และ โฮโจคุง เพื่อนร่วมโรงเรียน
คิเคียว (Kikyo) 
มิโกะผู้คุ้มครองลูกแก้วสี่วิญญาณให้สะอาดบริสุทธิ์ เป็นคนสุขุมจริงจัง ไม่แสดงออก และมีใบหน้าอมทุกข์ ในอดีตคิเคียวเคยรักอินุยาฉะแต่เพราะกลอุบายของนาราคุ จึงทำให้ผิดใจกับอินุยาฉะ เธอจึงได้ผนึกอินุยาฉะไว้แล้วตายด้วยบาดแผลไปพร้อมลูกแก้วสี่วิญญาณ 50 ปีต่อมาคิเคียวได้กลับชาติมาเกิดเป็น คาโกเมะ และจากนั้นไม่นานก็ได้ถูกทำให้ฟื้นคืนชีพให้มีชีวิตขึ้นมาใหม่อีกครั้งด้วยน้ำมือของปีศาจอุราซึเอะเพื่อตามหาเศษลูกแก้ว แต่เธอก็ไม่ได้ทำตาม กลับฆ่าคนที่ปลุกชีพทิ้งและปลีกวิเวกเดินทางออกไปแก้แค้นนาราคุตามลำพัง หลังจากที่รู้ความจริงว่าโศฏนาฎกรรมระหว่างเธอกับอินุยาฉะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันคิเคียวซึ่งยังมีใจให้อินุยาฉะอยู่ก็มักจะออกโรงมาช่วยเหลืออินุยาฉะอยู่เสมอ ต่อมาเธอถูกความชั่วร้ายในใยแมงมุมของนาราคุเข้าครอบงำจิตใจจึงไม่สามารถชำระล้างลูกแก้วและช่วยโกฮักคุได้ คิเคียวจึงฝากโกฮักคุไว้ใต้การดูแลของคาโกเมะและใช้พลังเฮือกสุดท้ายที่พร้อมจะสะกดนาราคุให้ตายตกไปตามกันแต่ไม่สำเร็จเพราะความชั่วร้ายของนาราคุมีมากจนเกินไป อย่างไรก็ตามคาโกเมะได้ใช้ธนูแห่งเขาอาสึซะชำระล้างความชั่วร้ายในตัวของคิเคียวและช่วยวิญญาณของเธอเอาไว้ได้ คิเคียวจึงไม่ต้องใช้เวลาในวาระสุดท้ายแต่เพียงลำพังและได้เสียชีวิตลงอีกครั้งภายในอ้อมกอดของอินุยาฉะ ชายคนที่เธอรัก
เส็ตโชมารู (Sesshomaru) 
เขาเป็นพี่ชายต่างมารดาของอินุยาฉะแต่ไม่ลงรอยกันเท่าไหร่นัก เป็นคนเลือดเย็นและเย็นชา มีผู้ติดตามเป็นปีศาจร่างเล็กนามว่า จาเก็น เส็ตโชมารูมีดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดาบเขี้ยวอสูรที่ทำมาจากเขี้ยวของบิดาเป็นอาวุธประจำกายโดยมีท่าไม้ตายคือ จันทร์เสี้ยวปรภพ ที่เมื่อฟันออกไปจะเกิดหลุมดำขนาดมหึมาดูดคู่ต่อสู้ไปยังปรโลกได้ นอกจากนี้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นยังมีอิทธิฤทธิ์ช่วยชุบชีวิตผู้ที่ตายไปแล้วให้กลับมาชีวิตได้ถึง100คนในด้วยการกวัดแกว่งเพียงครั้งเดียว และพลังในการชุบชีวิตของดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นนี้เองที่ทำให้เซโชมารุได้พบกับ ริน เด็กน้อยกำพร้าผู้ยื่นมือเข้ามาช่วยรักษาแผลที่เกิดจากการปะทะกับดาบเขี้ยวอสูรของอินุยาฉะซึ่งโชคร้ายถูกสมุนเผ่าหมาป่าปีศาจฆ่าตายและใช้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นของเขาช่วยชีวิตเธอเอาไว้ นับแต่นั้นเป็นต้นมาเส็ตโชมารูได้มองโลกในแง่มุมใหม่ มีความคิดที่จะทำอะไรเพื่อคนอื่น รู้สึกโกรธแค้นเพื่อผู้อื่น รู้จักความรัก และเป็นคนที่ดีขึ้น
มิโรคุ (Miroku) 
นักบวชจอมลามกจีบผู้หญิงไปวันๆ เจอผู้หญิงสวยๆที่ไหนก็มักจะพูดว่า"ช่วยคลอดลูกให้ข้าสักคนได้มั้ยครับ"จนติดเป็นนิสัย แต่ว่ามีเพียงซังโกะเป็นคนที่เขารักอย่างจริงจัง มิโรคุตัดสินใจร่วมเดินทางไปปราบนาราคุเพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข หลักจากที่ปู่ของเขาถูกนาราคุสาปให้มีช่องว่างแห่งลมที่มือซึ่งเป็นคำสาปที่จะสืบทอดไปยังลูกหลานจนกว่านาราคุจะถูกกำจัด โดยช่องว่างแห่งลมสามารถดูดทุกสิ่งให้หายไปในความว่างเปล่า แต่จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายจะดูดกลืนตัวเจ้าของเองโดยไม่เหลือแม้แต่กระดูก ภายหลังในตอนจบของเรื่อง คำสาปช่องว่างแห่งลมได้ถูกทำลายและมิโรคุก็ได้ร่วมชีวิตครอบครัวกับซังโกะโดยมีลูกสาวฝาแฝดและลูกชายอีกหนึ่งคน
ซังโกะ (Sango) 
นักล่าปีศาจฝีมือดีที่ถูกนาราคุหลอกไปทำร้ายจนปางตายด้วยน้ำมือของ โคฮาคุ ผู้เป็นน้องชายตัวเองซ้ำยังถูกนาราคุเป่าหูว่าทุกคนในหมู่บ้านซังโกะถูกล้างเผ่าพันธุ์ด้วยเป็นฝีมือของอินุยาฉะ ทำให้ซังโกะโกรธแค้นตามไปล้างแค้นกับอินุยาฉะ แต่เมื่อหลังจากรู้ความจริง ซังโกะจึงเข้าร่วมกับอินุยาฉะเพื่อกำจัดนาราคุ ต่อมาได้ตกลงเป็นคู่รักกับมิโรคุ พร้อมกับสัญญากันว่าจะแต่งงานกันเมื่อแก้แค้นนาราคุได้แล้ว มีอาวุธประจำกายคือ กระดูกบิน หรือ บูมเมอแรงยักษ์ ในตอนท้ายสุดของเรื่องเธอตกลงแต่งงานสร้างครอบครัวกับมิโรคุ ทั้งสองมีลูกๆด้วยกัน 3 คน เป็นลูกสาวฝาแฝดและลูกชายอีกหนึ่งคน
ชิปโป (Shippo) 
เป็นลูกของปิศาจจิ้งจอกซึ่งถูกพี่น้องไรจู (มันเต็น และ ฮิเต็น) ฆ่าตาย ทีแรกต้องการมาขโมยลูกแก้วสี่วิญญาณของคาโกเมะเพื่อไปแก้แค้นให้พ่อแต่ได้อินุยาฉะมาช่วยแก้แค้นให้ ชิปโปจึงถืออินุยาฉะเป็นผู้มีพระคุณและร่วมเดินทางมากับพวกอินุยาฉะมาตลอด แต่ดูเหมือนจะสนิทกับคาโกเมะมากกว่าเพราะถูกอินุยาฉะแกล้งอยู่เป็นประจำ ชิปโปมีวิชาแปลงร่างได้ ชอบวาดภาพระบายสี เจ้าชู้เล็กๆ ถึงจะยังเป็นเด็กแต่บางครั้งก็กล้าหาญไม่เบาเลย
คิราร่า (Kirara) 
เป็นสัตว์คู่ใจของซังโกะ คิราร่าได้อาศัยอยู่ในหมู่บ้านของซังโกะตั้งแต่ซังโกะยังไม่เกิด และยังมีคนเชื่อว่าคิราร่ายังเคยเป็นสัตว์คู่ใจของมิโกะนามว่า มิโดริโกะ ผู้ที่เคยปกป้องหมู่บ้านจากพวกปีศาจและเป็นผู้ที่สร้างลูกแก้วสี่วิญญาณขึ้นมา คิราร่านั้นมี 2 ร่าง ร่างหนึ่งคือแมวตัวเล็กๆน่ารัก แต่อีกร่างหนึ่งคือแมวปีศาจที่มีร่างกายใหญ่โต สามารถลอยได้ และนอกจากเป็นเพื่อนร่วมรบคู่ใจของซังโกะแล้ว คิราร่ายังเป็นพาหนะให้พวกซังโกะขี่ได้อีกด้วย


มิโดริโกะ 
ผู้ที่เคยปกป้องหมู่บ้านจากพวกปีศาจ ต่อมาพวกปีศาจได้รวมตัวกันรุมทำร้ายมิโดริโกะ มิโดริโกะจึงนำวิญญาณของพวกปิศาจมาใส่ในร่างตน และสิ่งที่ออกมาจากร่างของมิโดริโกะก็คือ "ลูกแก้วสี่วิญญาณ" ซึ่งมิโดริโกะก็ยังคงสู้กับพวกปีศาจในลูกแก้วตลอดมา
ริน (Rin) 
เดิมเธอเป็นลูกชาวบ้านธรรมดาแต่เธอต้องมาเห็นพ่อแม่ของเธอถูกโจรป่าฆ่าตายไปต่อหน้าต่อตาเธอจึงช็อคจนพูดไม่ได้ วันหนึ่งโชคชะตานำพาให้รินไปเจอกับเซโชมารุได้รับบาดเจ็บสาหัสอาการปางตายจึงช่วยรักษาบาดแผลให้ แต่ต่อมาโชคร้ายถูกสมุนเผ่าหมาป่าปีศาจของโคงะ ฆ่าตายแต่ได้เซโชมูรุใช้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นช่วยชีวิตเอาไว้ได้ หลังจากรอดจากความตายมารินจึงคอยติดตามเซโชมารุไปตลอดเวลาและกลับมาพูดดังเดิมได้แถมยังพูดมากอีกซะด้วย ภายหลังเซโชมารุได้ฝากรินไว้ในความดูแลของท่านคาเอดะ ที่หมู่บ้านโดยแวะเวียนมาเยี่ยมเด็กน้อยและเอาของกำนัลมาให้บ้างเป็นครั้งคราว
โกฮาคุ (Kohaku) 
น้องชายของซังโกะ เขาถูกนาราคุควบคุมจิตใจให้ฆ่าพ่อและพวกพ้องของตัวเอง และยังลบความทรงจำของโกฮักคุ เพื่อใช้ให้โกฮักคุจัดการกับซังโกะและพวกอินุยาฉะ แต่ภายหลังก็ได้ความทรงจำกลับคืนมาแต่ไม่เอ่ยปากบอกใครเพื่อหาจังหวะเพื่อจะจัดการกับหัวใจของนาราคุ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ซังโกะโกรธแค้นนาราคุมาก โกฮักคุได้ร่วมมือกับคากุระในการทรยศนาราคุ แต่นาราคุรู้ทันจึงสังหารคากุระซะ ก่อนที่คากุระจะถูกฆ่าได้ใช้ขนนกพาโกฮักคุหนีไป ต่อมาโกฮักคุก็ไปหลบอยู่กับคิเคียวแต่ตอนที่นาราคุคิดจะใช้ใยแมงมุมเพื่อที่จะให้จิตใจของคิเคียวมัวหมองจึงให้โกฮักคุหนีไปโดยมีชิคิงามิคอยติดตาม แต่นาราคุรู้ทันจึงส่งเบียคุยะมาดักกลางทางแต่ก็ได้เซโชมารุมาช่วยไว้จึงได้มาอยู่กับเส็ตโชมารูในที่สุด ในตอนจบของเรื่อง โกฮักคุออกผจญโลกกว้างเพียงลำพังเพื่อฝึกฝนตนเองให้เป็นนักล่าปีศาจที่เก่งกาจที่สุด
โคงะ (Koga) 
หัวหน้าของเผ่าหมาป่าปีศาจ ผู้เป็นคู่กัดกับอินุยาฉะเพราะะหลงรักคาโกเมะ (แต่โคงะเองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้วคือ อายาเมะ) โคงะมีเศษลูกแก้วอสูรฝังอยู่ที่แขนขวาและขาทั้ง2ข้าง (ภายหลังเหลือแค่ที่ขา2ข้าง เพราะถูกปีศาจนก โกคุรักคุ ที่เป็นคู่อริชิงไป) โคงะออกตามล่านาราคุ โดยการถอนตัวออกจากการเป็นหัวหน้าฝูงหมาป่าของตนเพื่อมาแก้แค้นนาราคุ เพราะนาราคุได้ฆ่าพรรคพวกของเขาไปมากมายเพียงเพื่อจะเป็นเครื่องมือในการกำจัดอินุยาฉะไปให้พ้นทาง แต่ในภายหลังได้ถูกนาราคุชิงเอาเศษลูกแก้วไป จึงออกจากกลุ่มของพวกอินุยาฉะเพื่อกลับไปเป็นหัวหน้าฝูงหมาป่าตามเดิม
จาเก็น (Jaken) 
จาเก็นเป็นปิศาจรับใช้ที่คอยติดตามเซโชมารุ จงรักภักดีต่อเซโชมารุมากแต่มักจะโดนเซโชมารุแสดงท่าทีเย็นชาโหดร้ายใส่อยู่เสมอ เขาจึงต้องคอยสังเกตดูสีหน้าของเซโชมารุตลอดเวลา จาเก็นมีอาวุธเป็นไม้เท้าหัวคนของจาเก็นสามารถพ่นไฟที่ร้ายแรงมากจนสามารถทำลายอะไรที่อยู่เบื้องหน้าไม้เท้านั้นให้ถูกเผากลายเป็นเถ้าถ่านได้
คาเอเดะ (Kaede) 
น้องสาวของคิเคียวผู้เป็นมิโกะดูแลหมู่บ้านและคอยให้คำแนะนำต่างๆแก่พวกอินุยาฉะ
โทโตไซ 
เป็นช่างตีดาบฝีมือเยี่ยม ลูกน้องที่ภักดีของท่านขุนพลสุนัขอสูรพ่อของอินุยาฉะ เป็นผู้ตีดาบเขี้ยวอสูรของอินุยาฉะ และดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นของเส็ตโชมารู ปู่เมียวกะมักจะมาหลบภัยอยู่ด้วยบ่อยๆ
เมียวกะ (Myoga) 
เป็นปีศาจหมัด ผู้ให้คำแนะนำเรื่องต่างๆแก่อินุยาฉะ เดิมทีเป็นผู้ติดตามท่านพ่อของอินุยาฉะ ปู่หมัดเมียวกะติดนิสัยอยู่อย่างหนึ่งคือ พอมีเรื่องอันตรายเมื่อไหร่จะหายไปเป็นคนแรกทันที
อินุไทโช 
เป็นจอมปีศาจหมาจิ้งจอก พ่อของอินุยาฉะ เส็ตโชมารู และอิจิโนเสะหรือฮาร์ท เป็นเจ้าของดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น (ที่อยู่กับเส็ตโซมารู) และดาบเขี้ยวอสูร (ที่อยู่กับอินุยาฉะ) และดาบโซอุนกะ เสียชีวิตในวันเดียวกับที่อินุยาฉะเกิด เพราะปกป้องเจ้าหญิงอิซาโยอิและทารกน้อยไว้ เป็นผู้มอบเสื้อขนหนูไฟและชื่อ อินุยาฉะ ให้กับอินุยาฉะ
อิซาโยอิ
แม่ของอินุยาฉะ เป็นเจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์ที่หลงรักกับอินุไทโชผู้เป็นอสูร มีจิตใจอ่อนโยน งดงามสมเป็นขัตติยนารี ดูแลอินุยาฉะอย่างดีมาเพียงลำพัง แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมที่โชคร้ายเพราะไม่มีใครยอมรับ และได้เสียชีวิตลงเมื่ออินุยาฉะอายุ 5 ขวบ
ท่านแม่ของเส็ตโชมารู 
เป็นปีศาจจิ้งจอกเต็มตัว ในร่างมนุษย์มีโฉมที่งดงามแต่ทว่าเป็นคนเย็นชา เป็นผู้ดูแลศิลาปรโลกที่อินุไทโซเหลือให้ไว้สำหรับเป็นสิ่งที่สามารถทำให้พลังจันทร์เสี้ยวปรภพ (เมโด) ที่อยู่ในดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นกลายเป็นจันทร์ที่เต็มดวง


นาราคุ (Naraku) 
นาราคุเป็นครึ่งปีศาจที่เกิดจากแรงอาฆาตของโจรป่า โอนิคุโมะ ที่ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสแต่ได้คิเคียวมาช่วยเอาไว้หลังจากโดนเผาไฟทั้งตัวหลังจากที่ถูกจับห่อเสื่อโยนลงไปในเหวลึกที่เรียกกันว่า "นาราคุ" (นรก) เพราะหักหลังพวกพ้อง โอนิคุโมะจึงหลงรักคิเคียวอย่างสุดหัวใจและต้องการแย่งคิเคียวจากอินุยาฉะ จึงเสนอพลังวิญญาณให้ปีศาจหลายร้อยหลายพันตัวเข้ากัดกินสิ่งสู่ในร่างกายกลายเป็นครึ่งปีศาจนาราคุ แต่จิตใจปีศาจของนาราคุก็บดบังความรู้สึกนึกคิดของโอนิงุโมะจนหมดจนกลายเป็นว่านาราคุวางแผนให้อินุยาฉะและคิเคียวฆ่ากันเองเพื่อช่วงชิงลูกแก้วสี่วิญญาณ นาราคุเป็นจอมวางแผน นิยมทำความชั่วช้าโดยไม่ให้มือตัวเองแปดเปื้อน เจ้าเล่ห์เพทุบาย และสามารถแบ่งร่างออกมาใช้งานได้หลายรูปแบบโดยมีสัญลักษณ์ประจำตัวเป็นรูปแมงมุมที่กลางหลัง
คันนะ (Kanna) 
เป็นร่างแบ่งภาคที่นาราคุสร้างขึ้นจากความว่างเปล่าเป็นร่างแรก เป็นพี่สาวของคากุระ คันนะเป็นผู้ใช้กระจกที่สามารถดูดกลืนวิญญาณและสามารถสะท้อนพลังต่างๆกลับมาได้ เป็นสมุนที่นาราคุไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุด แต่ภายหลังนาราคุทรยศเธอ โดยให้เธอสังเวยชีวิตเพื่อทำลายดาบเขี้ยวอสูร เมื่อเห็นว่าไม่สำเร็จจึงบังคับให้เธอตายและพาพวกอินุยาฉะไปด้วย
คันนะจึงใช้ความรู้สึกสุดท้ายเพื่อบอกคาโงเมะถึงวิธีกำจัดนาราคุ ทำให้ทุกคนรู้ว่าคันนะเองก็มีความรู้สึกและหัวใจเช่นกัน
คางุระ (Kagura) 
เป็นร่างแบ่งภาคที่นาราคุสร้างขึ้นเป็นร่างที่ 2 ต่อจากคันนะ คากุระเป็นผู้ใช้ลมและสามารถเชิดศากซพของคนตายให้เคลื่อนไหวและต่อสู้ได้เหมือนมีชีวิต ต่อมา คากุระกลับใจเป็นคนดี และพยายามหาอิสรภาพให้กับตนเอง เธอหักหลังนาราคุด้วยการแอบไปส่งข่าวให้เซ็ซโซมารุอยู่เสมอ เพราะเธอเชื่อว่าเซสโซมารุมีพลังแข็งแกร่งมากพอที่จะเทียบเคียงนาราคุได้ ทว่าต่อมา คากุระถูกนาราคุทำร้ายปางตายเพราะช่วยโกฮักคุไว้ เธอยอมรับความตายอย่างสงบต่อหน้าเส๊ตโชมารูโดยไม่ยอมรับการช่วยเหลือจากชายคนรักของเธอ ในที่สุดวิญญาณของเธอก็เป็นอิสระเช่นสายลมโดยแท้จริง ถึงแม้ร่างกายจะตายจากไป แต่ "สายลม" ก็ยังคงพัดผ่านอยู่เคียงข้างเส็ตโชมารูเสมอมา
ฮักคุโดชิ 
ร่างแยกอีกหนึ่งร่างของนาราคุ แยกออกมาตอนที่นาราคุหลบไปยังเขาฮักคุเร ซึ่งในตอนแรกคือหัวใจของนาราคุ หลังจากถูกนักบวชผ่าออกเป็นสองซีก ซีกที่มีหัวใจถูกเก็บรักษาเอาไว้อย่างดี ส่วนซีกที่ไม่มีหัวใจคือฮักคุโดชินั่นเอง มีความสามารถพิเศษคืออ่านใจคนและครอบงำจิตใจคนได้ ต่อมาถูกมิโรคุใช้ช่องว่างแห่งลมดูดกลืนเข้าไปตามแผนการของนาราคุ เหตุเพราะอยากเป็นใหญ่กว่านาราคุ
อากาโกะหรืออากาชิ 
หัวใจที่แท้จริงของนาราคุ มีความสามารถอย่างเดียวกับฮักคุโดชิแต่แกร่งกว่าหลายเท่านัก เป็นหัวใจที่ทรยศร่างเนื้อของตัวเอง ได้หินฟุโยเฮคิมาครอบครองเพื่อให้พลังปีศาจหายไป ทำให้ไม่มีศัตรูรายไหนตามเจอสุดท้ายอาศัยอยู่ในร่างของโมเรียวมารุเพื่อต่อสู้กับนาราคุและพวกอินุยาฉะ
โมเรียวมารู 
เป็นปีศาจที่ไม่มีจิตวิญญาณ สร้างขึ้นเพื่อใช้เก็บซ่อนหัวใจ (อากาโกะ) เอาไว้ จึงเป็นเครื่องมือสำคัญของอากาโกะที่จะใช้ต่อกรกับนาราคุและพวกอินุยาฉะ ต่อมาโมเรียวมารุได้ดูดกินปีศาจอื่นๆเพื่อให้ได้พลังปีศาจของปีศาจเหล่านั้นมาเสริมให้ตนแข็งแกร่งขึ้น แต่สุดท้ายก็โดนนาราคุกลืนหัวใจของมันกลับเข้าร่างไป
เบียคุยะ 
ร่างแบ่งใหม่ของนาราคุ เป็นผู้สร้างภาพลวงตาและมายาแห่งฝัน สามารถถอดดวงตาของตนออกบินสังเกตการณ์ในที่ต่างๆได้ อาวุธที่ใช้เป็นประจำคือดอกราตรีขาว ซึ่งจะสร้างภาพลวงตาให้ศัตรูสับสน เป็นสมุนของนาราคุที่มีฤทธิ์มากที่สุด
โกเรียวมารู 
แต่เดิมเป็นนักพรตที่ถูกปีศาจกลืนกินแขนข้างหนึ่งไป แต่โกะเรียวมารุได้ใช้มนต์สะกดปีศาจตนนั้นให้อยู่ในโอวาท และใช้พลังจากแขนปีศาจข้างนั้นในการปราบปีศาจ รับเลี้ยงเด็กกำพร้าเป็นสานุศิษย์เพื่อไปทำการล่าปีศาจโดยแจกน้ำเต้าบรรจุพลังแสงของแขนปีศาจให้ใช้สู้กับปีศาจ ต่อมาถูกสังหารโดยฮักคุโดชิและกลายร่างเป็นโมเรียวมารุ
หน่วยเจ็ดสังหาร 
เป็นกลุ่มทหารรับจ้าง ประกอบด้วย บังโกซึ เคียวโกซึ คินโกซึ มูโกซึ จาโกซึ เร็นโกซึ และซุยโกซึ แต่เดิมพวกเขาเป็นมนุษย์ซึ่งรับจ้างสู้รบและทำลายปราสาทเจ้าเมืองต่างๆในฐานะทหารรับจ้างที่ไม่เป็นข้ารับใช้ใคร แต่ถูกเจ้าเมืองที่เคยทำงานให้ร่วมมือกันหักหลัง ถูกจับได้และประหารชีวิตด้วยการตัดหัว เหล่าเจ้าเมืองกลัววิญญาณแค้นจึงฝังและผนึกไว้ กระทั่ง 15 ปีต่อมา นาราคุก็นำเศษลูกแก้วสี่วิญญาณมาคืนชีพให้ เพราะต้องการหลอกใช้หน่วยเจ็ดสังหารเป็นตัวช่วยถ่วงเวลากันพวกอินุยาฉะไว้ในขณะที่ตนเองกำลังเปลี่ยนร่างเพื่อเพิ่มพลัง
บังโกซึ(ผู้มีสันดานหยาบช้า) 
หัวหน้าหน่วยเจ็ดสังหาร มีฝีมือการต่อสู้เก่งกาจที่สุดจึงถูกยกเป็นพี่ชายคนโตของกลุ่มแม้ว่าจะมีอายุน้อยที่สุดก็ตาม เป็นคนรักพวกพ้องมาก รอดชีวิตอยู่เป็นคนสุดท้ายจึงต้องการจะแก้แค้นให้พวกพ้องที่ตายไป แต่สุดท้ายต้องตายเพราะโดนอินุยาฉะฆ่า
เคียวโกซึ(ผู้ชั่วร้าย) 
มีร่างกายใหญ่โตมาก บ้าพลังและตะกละ สุดท้ายก็ถูกโคงะฆ่าตายโดยการแย่งเอาเศษลูกแก้วออกมาจากหน้าผาก
คินโกซึ(ผู้มีร่างกายเป็นเหล็ก) 
มีร่างกายประกอบด้วยเหล็กและอาวุธต่างๆทั้งตัว ตายในขณะที่ต่อสู้กับโคงะ เพราะสละชีวิตตนช่วยเร็นโกซึซึ่งเป็นผู้มีพระคุณของตนไว้
มูโกซึ(ผู้ใช้พิษ) 
มีหน้าตาที่น่าเกลียด เป็นผู้ใช้พิษ พิษของเขาร้ายแรงมากและมีหลายรูปแบบ เป็นสมาชิกคนเดียวในหน่วยเจ็ดสังหารที่บ้าผู้หญิง สุดท้ายก็โดนเส็ตโชมารุที่ตามกลิ่นไอปีศาจมาฆ่าตาย
จาโกซึ(ผู้ใช้งู) 
กายเป็นชายแต่มีนิสัยชอบผู้ชายด้วยกัน มีดาบกระดูกงูเป็นอาวุธ ชอบอินุยาฉะและมิโรคุ มีความซื่อสัตย์ต่อบังโกซึเป็นเลิศ แต่สุดท้ายตายเพราะโดนอินุยาฉะจัดการจนไม่เหลือพลังและโดนพวกพ้อง (เร็นโกซึ) หักหลังแต่ได้รับการล้างแค้นโดยบังโกซึในภายหลัง
เร็นโกซึ(ผู้ใช้ไฟ) 
เป็นคนฉลาดและเจ้าเล่ห์ คิดจะทรยศพวกพ้องของตนเอง และได้หลอกจาโกซึให้ไปถูกอินุยาฉะฆ่าเพื่อชิงเศษลูกแก้ว แต่สุดท้ายต้องถูกบังโกซึฆ่าตายเพราะโดนจับได้
ซุยโกซึ(ผู้หลับใหล) 
เป็นผู้ที่มีสองบุคลิกในคนเดียวกัน บุคลิกหนึ่งคือเป็นหมอที่ทีความมีเมตตา ช่วยเหลือคน แต่อีกบุคลิกหนึ่งคือเป็นผู้ที่มีจิตใจโหดร้าย ชื่นชอบการฆ่าฟันเป็นชีวิตจิตใจ ปกติแล้วจะถูกซุยโกซึที่มีจิตใจดีกดไว้อยู่แต่พอโมโหขึ้นมาซุยโกซึอีกคนหนึ่งก็จะปรากฏตัวออกมา สุดท้ายซุยโกซึได้ขอร้องให้คิเคียวเอาเศษลูกแก้วไปจากตนซะเพราะไม่อยากให้ใครต้องตายเพราะตนอีกแล้วแต่โดนจาโกซึแย่งไปก่อน
ไซเมียวโช 
เป็นแมลงที่มาจากขุมนรก มีพิษร้ายแรง ถูกนาราคุนำมาใช้ประโยชน์ในการทำลายช่องว่างแห่งลมของมิโรคุ โดยเมื่อไหร่ที่มิโรคุใช้ช่องว่างแห่งลม ไซเมียวโชก็จะถูกปล่อยออกมาพร้อมกับบินเข้าไปในช่องว่างแห่งลมทันทีและนอกจากจะทำลายช่องว่างแห่งลมของมิโรคุได้แล้วไซเมียวโชยังสามารถสะกดรอยตามคนให้นาราคุได้อีกด้วย
แมลงส่งวิญญาณ (ชินิทามะจู) 
ถูกคิเคียวนำมาใช้ดูดวิญญาณของหญิงสาวที่ตายแล้วมาให้ตนเพื่อใช้ในการดำรงชีวิตให้อยู่รอด แมลงส่งวิญญาณมีลักษณะลำตัวยาว คล้ายงูและมีสีขาวเรืองแสงเปล่งประกาย

[แก้] ของวิเศษในเรื่อง

[แก้] ลูกแก้วสี่วิญญาณ

ลูกแก้วสี่วิญญาณ หรือ ลูกแก้วอสูร คือลูกแก้วที่เกิดขึ้นจากหัวใจของมิโกะ นาม มิโดริโกะ ผู้มีอำนาจในการชำระล้างความชั่วร้าย และมีพลังวิญญาณที่แกร่งกล้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา เหล่าปีศาจที่เจ็บแค้นและกลัวอำนาจของมิโดริโกะจำนวนหลายสิบหลายร้อยตน ได้รวมร่างกันเพื่อสังหารมิโดริโกะ (แต่ในฉบับมังงะ พวกปีศาจได้แทรกเข้าไปในช่องว่างของจิตใจชายคนรักของมิโดริโกะ จนกำเนิดเป็นปีศาจตัวใหม่ คล้ายการเกิดของนาราคุ) ฝูงปีศาจและมิโดริโกะต่อสู้กันเป็นเวลา 7 วัน 7 คืน จนมิโดริโกะอ่อนแรงและถูกกินไปครึ่งหนึ่ง มิโดริโกะจึงตัดสินใจควักหัวใจของปีศาจมาใส่ไว้ในหัวใจของตนเองและหลอมรวมไว้กลายเป็นลูกแก้วสี่วิญญาณ
ลูกแก้วสี่วิญญาณสามารถเพิ่มพลังอำนาจให้ทุกสิ่ง ตั้งแต่เพิ่มความแข็งแกร่ง ลดอาการเจ็บป่วย ชุบชีวิตคนตายได้ รวมถึงทำให้ผู้ครอบครองลูกแก้วสมความปรารถนาได้ จึงเป็นที่ต้องการของทั้งมนุษย์และปีศาจ หากลูกแก้วตกไปอยู่ในมือของคนชั่ว หัวใจของปีศาจภายในลูกแก้วจะมีอำนาจมากกว่า จนกลายเป็นสีดำ และมีอำนาจในการทำลายล้าง แต่ถ้าอยู่ในมือของผู้มีพลังชำระ (เช่นคิเคียว และคาโงเมะ) จิตของมิโดริโกะก็จะมีพลังมากกว่า ลูกแก้วจะบริสุทธิ์ และมีอำนาจในการปกป้อง

[แก้] ดาบเขี้ยวอสูร

เป็นดาบที่ตีขึ้นจากเขี้ยวของอินุไทโชให้แก่อินุยาฉะไว้เพื่อปิดผนึกสายเลือดอสูรของอินุยาฉะ มีพลังในการปกป้อง สามารถตวัดดาบเพียงครั้งเดียวฆ่าได้เป็นร้อย โดยฟันเข้าไปยังแผลแห่งลม คือช่องระหว่างไอปีศาจที่มาปะทะกัน แต่หลังจากการต่อสู้หลายครั้งทำให้ดาบหักอินุยาฉะจึงใช้เขี้ยวตัวเองผสมกับเขี้ยวของพ่อตีเป็นดาบเขี้ยวอสูรแต่มีความหนักมากวิธีแก้ไขคือต้องใช้เขี้ยวของภูตมังกรกระดูก แต่จากการต่อสู้กับภูตมังกรกระดูกทำให้ดาบเขี้ยวอสูรเบาขึ้น และมีพลังคือสามารถใช้แผลแห่งลมได้ทุกเมื่อ และพลังคลื่นระเบิด ซึ่งใช้ได้กับอสูรที่มีพลังสูงเท่านั้น ต่อมาได้พลังในการทำลายเขตอาคมเป็นดาบเขี้ยวอสูรสีแดงจากการทำลายลูกแก้วของอสูรที่มีพลังสร้างเขตอาคมที่แข็งแกร่ง และจากการไปสุสานอินุไทโซทำให้ได้พลังคลื่นอสูรลิ่มเพชร และได้หลอมดาบเขี้ยวอสูรกับดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นทำให้ได้พลังจันเสี้ยวปรภพมา และยังเป็นตัวแทนแห่งโลกมนุษย์อีกด้วย

[แก้] ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น

ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น หรืออีกชื่อคือ ดาบ เท็นเซกะ คือ 1 ใน 3 ของดาบที่ตีขึ้นจากเขี้ยวของ อินุไทโช ผู้เป็นบิดาของอินุยาฉะและเซสโซมารุ มีลักษณะพิเศษคือไม่สามารถฟันสิ่งในภพธรรมดา แต่สามารถฟาดฟันสิ่งที่มีอยู่ในภพความตายได้ มีพลังอำนาจในการเรียกคืนวิญญาณ หรือ ชุบชีวิตให้กับคนตาย โดยการใช้ดาบเล่มนี้ฆ่าทูตมรณะที่จะมาวนเวียนใกล้ๆกับศพ
อย่างไรก็ตามดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น ไม่อาจคืนชีวิตแก่ผู้ที่ตายเป็นเวลานาน หรือ ปีศาจบางตัวได้ (เพราะปีศาจส่วนใหญ่จะสลายไปทันทีที่สิ้นใจ) ผู้ที่ฟื้นคืนชีพจากดาบเล่มนี้ ได้แก่ เจ้าหญิงอิซาโยย จาเก็น ริน เป็นต้น และดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นจะใช้ชุบชีวิตผู้ตายได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้น เป็นมรดกสิ่งเดียวที่อินุไทโชเหลือไว้ให้เซสโซมารุ ซึ่งเซสโซมารุในตอนแรกเกลียดดาบเล่มนี้และไม่เคยชักขึ้นใช้ เพราะคิดว่าบิดาลำเอียง รักแต่ลูกที่เกิดจากหญิงมนุษย์ ถึงขนาดมอบดาบเล่มสำคัญอย่างเขี้ยวอสูรให้ แต่พอเรื่องราวต่างๆค่อยๆผ่านเข้ามา เซสโซมารุจึงเข้าใจว่า อินุไทโชต้องการสอนถึงความสำคัญของการมีชีวิตอยู่ และความรักความรู้สึกที่มีให้กับผู้อื่น จากดาบเล่มนี้นั่นเอง หลังจากที่เซสโซมารุต้องเสียดาบโทคิชินไปเพราะต้องการล้างแค้นให้กับคากุระ โทโตไซก็ได้เสนอตัวเข้ามาพัฒนาดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นจนสามารถเรียกจันทร์เสี้ยวปรภพ (เมโด) ซึ่งสามารถดูดร่างกายของศัตรูไปยังอีกภพได้ เซสโซมารุจึงใช้ดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นเป็นอาวุธหลัก กระทั่งสามารถเรียกจันทร์เต็มดวง ซึ่งเป็นขั้นสุดยอดของดาบเขี้ยวฟ้าฟื้นได้
จากการประมือกับอินุยาฉะดาบเล่มนี้จึงถูกหลอมรวมเข้าเป็นดาบของอินุยาฉะในที่สุด เป็นตัวแทนสวรรค์

[แก้] ดาบเขี้ยวเมฆาคลั่ง

ดาบเขี้ยวเมฆาคลั่ง หรือ ดาบโซอุนกะ เป็นดาบเล่มสุดท้ายใน 1 ใน 3 ดาบที่เป็นตัวแทนของอินุไทโช ดาบเล่มนี้สร้างขึ้นมาด้วยจุดมุ่งหมายที่แตกต่างจากสองเล่มแรกอย่างสิ้นเชิง เพราะโซอุนกะมีจิตใจเป็นของตนเอง และจะคอยบงการผู้ถือดาบให้เป็นไปในทางที่ตนต้องการ ดาบเล่มนี้มีอำนาจในการทำลายล้างอันเลวร้ายและรุนแรง สามารถเปิดนรก เรียกพายุหมุน เรียกพลังอสูรในร่างกาย แปรเปลี่ยนจิตใจให้กลายเป็นชั่วร้าย และคืนสภาพศพในรูปร่างผีดิบเพื่อใช้เป็นกองทัพได้ ถือเป็นดาบตัวแทนนรก
ดาบเขี้ยวเมฆาคลั่ง ปรากฏตัวครั้งแรกใน อินุยาฉะเดอะมูฟวี่ 3 อภินิหารดาบครองฟ้าดิน โดยหลอมรวมกับมือที่ขาดไปของเซสโซมารุ คอยสิงสู่ผู้ถือดาบ ซึ่งพลังที่อันตรายนี้เองที่ดึงดูดให้สองพี่น้องแย่งชิงดาบเล่มนี้ เซสโซมารุต้องการนำไปใช้ และอินุยาฉะต้องการจะทำลาย
แต่ทว่าดาบกลับตกไปอยู่ในมือ"ทาเคมารุ" ซามูไรผู้เป็นศัตรูคนสำคัญของอินุไทโช และทำลายล้างจนโลกเกือบดับสูญ ทั้งสองพี่น้องจึงร่วมมือกันทำลายดาบโซอุนกะ และทิ้งมันกลับคืนสู่นรกภูมิ เป็นตัวแทนนรก

[แก้] ดาบเขี้ยวดินระเบิด

เป็นดาบที่อยู่ในร่างกายของเส็ตโชมารู ซึ่งจะได้มาก็ต้องหลุดพ้นจากการต้องการดาบเขี้ยวอสูรซะก่อน ดาบนี้ได้มาจากตอนการต่อสู้กับมากาซึฮิ และปรากฏมาพร้อมกับ แขนข้างซ้ายที่เคยถูกตัดไป และดาบเขี้ยวดินระเบิดมีคุณสมบัติคือ ฟันปิศาจแค่ทีเดียวจะระเบิดไปทั้งหมด และไม่เหลือแม้แต่เศษซาก ถ้าหากใครมา จับต้อง ซากที่ระเบิด หรือ ยังระเบิดไม่หมด ก็จะโดนระเบิด นั่น ทำลายไปด้วย

[แก้] ไข่มุกดำ

เป็นอัญมณีเชื่อมต่อระหว่างโลกมนุษย์กับปรภพ อินุไทโชเคยใส่ไว้ในดวงตาของอินุยาฉะ แต่ถูกเส็ตโชมารูดึงออกมาในครั้งที่จะไปเอาดาบเขี้ยวอสูรจากสุสานอินุไทโช

เรื่องย่อ ละคร เงาพราย

เรื่องย่อ ละคร เงาพราย

หลังจากที่ ศักยะ(หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์) ซึ่งเติบโตอยู่ที่นิวซีแลนด์นานนับสิบปี ตั้งแต่อายุ 12 ปี จนถึงปัจจุบัน แต่ต้องเดินทางกลับเมืองไทย สาเหตุเพราะ นาวาโท หลวงสินาดชลยุทธ์ ผู้เป็นปู่เสียชีวิตลง
ตาจอน(ไกรลาศ  เกรียงไกร) คนรับใช้เก่าแก่ของบ้านสินาดชลยุทธ์ บอกว่าศักยะสนใจแต่เรื่องส่วนตัวจึงกลับมาดูใจปู่ไม่ทันกระทั่งพินัยกรรมถูก เปิดขึ้น ศักยะ และ นิศรา(อภิสรา  ฉวีวงษ์) เป็นผู้ได้รับมรดก แต่ยังเหลือ ลพ ปัญจาวร(กิตติศักดิ์  ชีวาสัจจาสกุล) เพื่อนรักของหลวงสินาด ที่ได้รับเงินจำนวน 1 ล้านบาทที่ยังหาตัวไม่พบเพราะเวลาผ่านมานานมากแล้ว ส่วนพระเครื่อง เครื่องรางต่างๆ ตกเป็นของศักยะรวมทั้งของขลังต่างๆ ที่หลวงสินาดสั่งให้นำไปทิ้งลงแม่น้ำที่ปากอ่าวทั้งหมด






คืนหนึ่ง ศักยะนอนที่บ้านหลวงสินาด เห็นเหมือนมีชายใส่ชุดพราหมณ์จึงถามตาจอน ตาจอนรีบพาศักยะนำของขลังไปทิ้งแม่น้ำ แต่ศักยะแอบเก็บโถลายครามไว้ 1 อัน เมื่อเปิดออกก็มีควันพวยพุ่งออกมา ตาจอนถามถึงโถลายครามเพราะไม่เห็นศักยะนำมาทิ้งแม่น้ำ ศักยะปฎิเสธ ทำเป็นไม่รู้เรื่อง จนเสร็จธุระ ศักยะไปหา รัชต์(ตุ้ย-เกียรติกมล ล่าทา) เพื่อนเก่าสมัยเรียน และได้พบกับ พิมพัสตรา(ชาเคอลีน มิ้นช์) แฟนสาวของรัชต์ เขาขายโถลายครามให้รัชต์ แต่รัชต์แนะนำให้เขาเก็บไว้


ศักยะเปิดโถลายครามออก ตกใจเมื่อเห็นบางสิ่งคล้ายๆ หนอน แหวกว่ายอยู่ภายในจึงขว้างไปจนแตก ศักยะมีความรู้สึกว่าบ้านที่อยู่มีอะไรแปลก ๆ จึงคิดจะขายบ้าน รัชต์เสียดาย จึงขอเช่าเพื่อทำออฟฟิศ คืนหนึ่งศักยะได้พบกับบางสิ่ง ลักษณะเป็นเงาดำคล้ายงู มันแนะนำตัวเองว่ามันคือ " พราย " สามารถดลบันดาลทุกสิ่งที่ต้องการได้ ศักยะลองทดสอบก็เป็นความจริง รุ่งขึ้นศักยะขายเครื่องเรือนโบราณให้กับ เรน(มาร์กี้-ราศี บาเลนซิเอก้า) สาวสวยผู้ช่วยรัชต์ในราคาที่ไม่แพง ศักยะใช้พรายตามหาลูกหลานเพื่อนปู่ เพื่อมารับมรดก 1 ล้านบาท จึงได้รู้ว่า เรนเป็นหลานสาวแท้ๆ ของตาเลิศ(ชุมพร เทพพิทักษ์) ลูกชายสร้อยทิพย์(สรวงสุดา ลาวัณย์ประเสริฐ) ที่คบหาอยู่กับ ทัดสิงห์(ศานติ สันติเวชชกุล) หนุ่มใหญ่นักธุรกิจ หลังจากเลิกกับพ่อของเรน


ตาเลิศเล่าเรื่องปู่ของศักยะที่ชอบเล่นของแปลกๆ จึงทำให้ปีศาจออกมาอาละวาด ทำให้คนในหมู่บ้านล้มตาย และต้องทำพิธีปราบแล้วนำมาขังไว้ ศักยะได้ยินจึงนึกถึงพรายขึ้นมา ศักยะขอให้พรายช่วยให้เขาได้ทำงานที่สบาย ในที่สุดเขาก็ได้เข้าทำงานในตำแหน่งเซลล์ในบริษัทในเครือของรัชต์ โดยไม่ต้องจบปริญญาตรี






ตาจอนเจอเศษโถลายครามที่แตกจึงนำมาถามศักยะ แต่ศักยะปฎิเสธและหาว่าตาจอนฟั่นเฟือน วันหนึ่งเรนมาดูงานตกแต่งออฟฟิศ เธอได้พบกับคนรูปร่างเหมือนเด็กแต่หน้าแก่ มันสะกดจิตให้เธอไปแขวนคอใต้ต้นไม้แต่ศักยะมาช่วยไว้ทัน ตาจอนรู้เข้าจึงบอกศักยะขายบ้านแล้วกลับไปอยู่นิวซีแลนด์จึงจะพ้นปีศาจ ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดความสูญเสียเกิดขึ้น ศักยะแกล้งทำเป็นไม่เชื่อ หาว่าตาจอนเป็นอัลไซเมอร์


ตาจอนเตือนเรนว่าอย่ากลับมาที่นี่อีกต่อไปนี้จะมีคนตาย เจ้าที่มาเตือนตาจอนให้รีบหนีออกไปจากบ้าน ขณะหนีออกไปตาจอนไม่รอดพ้นเงื้อมมือพราย เขาถูกแขวนคอตายใต้ต้นมะขามก่อนถึงบ้านลูกชายเพียงนิดเดียว


รัชต์ชวนศักยะและเรนไปปาร์ตี้ที่สระน้ำที่บ้าน ทำให้ศักยะได้พบกับพิมแฟนสาวของรัชต์อีกครั้ง ศักยะฝันถึงพราย มันถามว่าอยากได้ทุกอย่างที่รัชต์มีหรือไม่ ศักยะตอบทันทีว่าอยาก มันบอกให้เขารออีก 1 ปี และมีเงื่อนไขว่าจะต้องไม่กลับไปอยู่บ้านหลังนั้นอีก ศักยะรับปากเขาเริ่มทำงานเซลล์โดยเป็นผู้ช่วยเรน ทุกอย่างดีเกินคาด ทุกคนที่ศักยะไปขายงานก็เหมือนถูกมนต์สะกด หลังจากบ้านได้รับการซ่อมแซมเป็นสำนักงานก็งามสง่าผิดปกติ รัชต์ชอบบ้านหลังนี้มากจึงชวนศักยะมานอนค้างคืนด้วยกัน ศักยะนึกถึงเรื่องที่รับปากไว้กับพรายไว้ แต่ด้วยความเป็นห่วงรัชต์จึงต้องยอมค้างเป็นเพื่อน รัชต์เอา ไว เด็กรับใช้มานอนเป็นเพื่อนอีกคน


คืนนั้น รัชต์ เรน และศักยะนั่งดื่มไวน์จนดึก เรนขับรถกลับบ้าน ศักยะ รัชต์และไวแยกย้ายกันเข้านอน ส่วนศักยะตั้งใจว่าจะไม่หลับเพราะจะคอยระวังเหตุการณ์ให้เพื่อน แต่พอหัวถึงหมอนก็หลับไป รัชต์นอนหลับไม่สนิท กลางดึกก็รู้สึกตัวเหมือนมีมือจากนรกยืดยาวมาหาจากโคมไฟเพดาน รัชต์เคยบวชเรียนมาจึงแผ่เมตตา ทำให้พรายชะงัก แต่ก็ไม่อาจต้านทานพลังอำนาจของมันได้ มีเสียงเตือนศักยะให้ไปช่วยเพื่อนเขาไว้ได้ทันเวลา รัชต์คิดว่าเป็นเพียงฝันร้าย ศักยะอ้างว่าได้ยินเสียงรัชต์ละเมอจึงเข้ามาดู


พรายปรากฎตัวขึ้นต่อว่าศักยะที่ห้ามไม่ให้เอาชีวิตเพื่อน แต่ให้เอาชีวิตคนอื่นไปแทน เหมือนที่ศักยะช่วยเรนจึงต้องเอาตาจอนไปแทน ไวเข้ามาได้ยินพอดีจึงถูกเอาชีวิตไป ศักยะรู้สึกผิดจึงหาทางเลี่ยงไม่ไปงานศพไว จนถึงวันเผาศักยะไม่สามารถเลี่ยงได้ เข็มทองแฟนของไวสงสัยเรื่องการเสียชีวิตของไวอยู่ลึกๆ


ศักยะหลงรักพิมพัสตราเต็มหัวใจเมื่อได้เจอ ความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นไปอย่างรวดเร็ว เขาจึงขอให้พรายช่วยให้ตนเองได้เป็นเจ้าของพิมพัสตรา เข็มทองเข้ามาได้ยินจึงไปฟ้องรัชต์ แต่รัชต์กำลังคุยติดพัน พรายบอกศักยะว่าถ้าอยากได้พิมพัสตราเป็นภรรยาต้องรอเวลา 1 ปี และต้องเอาผู้หญิงมาแลก


ศักยะนึกถึงเข็มทอง แต่พรายมีเงื่อนไขว่าต้องพาผู้หญิงคนนั้นไปออฟฟิศของเขาให้ได้พรายให้ศักยะ ลงทุนในตลาดหุ้น เพื่อสร้างทรัพย์สินให้พอกพูนขึ้นมา เรนบอกศักยะว่าตาของเธอมาจากน่าน จะขึ้นมาอยู่กับเธอเพราะแม่ของเธอกำลังจะแต่งงานใหม่ ศักยะพาตาเลิศไปเที่ยวและรับประทานอาหาร ตาเลิศอยากเห็นบ้านปู่ของศักยะว่าเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ตาเลิศเล่าความหลังให้ฟังว่าแต่ก่อนปู่ของศักยะมักจะท้าเพื่อนฝ่าดงกล้วยไป เขียนชื่อตัวเองบนโต๊ะที่มีหัวกระโหลกคนตายตั้งอยู่แล้ววิ่งออกมา วันหนึ่งอ้นเข้าไปเขียนชื่อ แต่กลับออกมาไม่ได้ จึงต้องกลายเป็นตัวตายตัวแทนของเจ้าของกระโหลกนั้น


ระหว่างที่เรนหาบ้านใหม่เพราะตาเลิศไม่อยากอยู่บ้านหลังที่ศักยะซื้อใหม่ นั้น ธุรกิจของรัชต์ก็ประสบปัญหา ในขณะที่ธุรกิจของศักยะประสบความสำเร็จเพราะพรายคอยช่วยเหลือ พรายแนะนำให้ศักยะซื้อธุรกิจของรัชต์มาเป็นของตนเอง ในนาม SY Real Estate รัชต์ตกตะลึง นึกไม่ถึงเมื่อได้รู้ความจริง และปฎิเสธงานที่ศักยะเสนอให้ รัชต์หาออฟฟิศใหม่


พิมพัสตราบอกเลิกกับรัชต์โดยหาข้ออ้างว่ารัชต์ไม่มีเวลาให้ เรนรู้ว่าพิมพัสตราไปคบกับศักยะ ตาเลิศมาช่วยงานที่ออฟฟิศเพราะเห็นว่าไม่ชอบมาพากล ความสัมพันธ์ของศักยะและพิมพัสตราเริ่มเป็นที่รู้กัน


ศักยะได้ทุกอย่างตามที่พรายรับปากไว้แล้วมันจึงหวนกลับมาทวงผู้หญิงที่เคยขอ ศักยะจึงวางแผนนัดเข็มทองให้มาต้อนรับลูกค้าใหม่แล้วหลอกฆ่าทิ้งที่โกดัง ตำรวจสงสัยศักยะจึงเรียกตัวไปให้ปากคำ ศักยะขอให้พรายช่วย มันจึงแนะนำให้เผาโกดังเพื่อทำลายหลักฐาน รัชต์ได้รับบัตรเชิญไปร่วมงานแต่งงานศักยะและพิมพัสตราแต่เขาไม่ไปร่วมงาน


พิไลรู้ข่าวว่าลูกชายแต่งงานแต่ไม่ยอมบอกจึงโทรมาต่อว่า ซ้ำพ่อเลี้ยงของศักยะสงสัยว่าอาจมีอะไรไม่ชอบมาพากล จึงยุให้พิไลกลับมาเมืองไทย หลังจากเรนกับตาเลิศย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหม่ก็สนิทสนมกับเพื่อนบ้าน คือ เกษมและ ภรรยา ซึ่งแท้จริงแล้ว เกษมเป็นลูกชายของตาจอน คืนหนึ่งตาจอนมาปรากฎตตัวให้รัชต์ เรน และตาเลิศเห็น ขอให้หนีไปให้ไกลที่สุด แต่ทั้งหมดไม่ยอมย้ายไปไหน รัชต์จึงอาสามาอยู่เป็นเพื่อนเรนและตาเลิศที่บ้าน


ตาเลิศไปดูต้นมะขามที่จอนผูกคอตาย รถกระบะคันหนึ่งพุ่งมาหา เคราะห์ดีที่ตาเลิศใช้ไม้เท้าที่หลวงสินาดยันไว้ได้ทันจึงได้รู้ว่าปีศาจจะ มาเอาชีวิต แม้นฤกษ์กลับมาเมืองไทยพร้อมกับพิไล จึงมาเยี่ยมลูกสาว คือ เรน ที่บ้าน แม้นฤกษ์อยากได้บ้านของลูกเลี้ยงตน แต่ศักยะรู้ทัน แม้นฤกษ์ให้เรนไปส่งที่บ้าน ได้พบกับศักยะและพิไล ศักยะและเรนจึงรู้ว่าที่แท้พ่อเลี้ยงของศักยะคือพ่อแท้ๆ ของเรน


ภายในเดือนเดียว แม้นฤกษ์ผลาญเงินศักยะไปถึง 6 ล้าน ศักยะไม่พอใจจึงไประบายกับพราย และขอให้พรายเอาตัวแม้นฤกษ์ไปลงนรกเสีย คืนนั้นแม้นฤกษ์จึงเสียชีวิตเพราะจมน้ำในสระ พรายทวงสิ่งตอบแทนจากศักยะ มันต้องการให้เขาทำลายไม้เท้าของตาเลิศเสีย


รัชต์ติดต่อพิมพัสตรา แต่กลายเป็นชนวนหึงหวงให้ศักยะทะเลาะกับพิมใหญ่โต จังหวะเดียวกับที่รัชต์โทรมานัดให้หญิงสาวไปพบ พิมพัสตรารู้สึกแปลกๆ ขณะเดินเข้าลิฟต์ เธอเกือบถูกพรายฆ่าตายแต่รัชต์มาช่วยไว้ทัน ศักยะรู้ว่าพรายทำไม่สำเร็จก็ยิ่งร้อนใจสั่งให้พรายกำจัดคนทั้งสอง แต่พรายมีเงื่อนไขว่าศักยะจะต้องเอาชีวิตผู้หญิงคนแรกที่เขาตื่นมาพบในวัน รุ่งขึ้น แต่ผู้หญิงคนแรกที่เขาพบคือ พิไล ศักยะถึงกับช็อค เขาเริ่มสำนึกได้ในสิ่งที่เขาทำ จึงขอร้องให้ตาเลิศช่วยแก้ไข และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง


พรายกลับมาหาศักยะ ศักยะขอให้ไว้ชีวิตแม่ พรายจึงตั้งเงื่อนไขใหม่ เอาชีวิตชาย 1 หญิง 1 มาแลก และศักยะต้องลงมือเอง ศักยะนึกถึงพิไลทันทีแต่ไม่ทัน เขาจึงไปหาตาเลิศที่บ้านขอให้ช่วยจัดการกับพราย แต่ตาเลิศไม่ยอมเพราะมีสิ่งไม่ชอบมาพากล


งานศพพิไลผ่านพ้นไป ตำรวจพบศพของทัดสิงห์ ศักยะถูกเรียกตัวไปสอบปากคำพร้อมกับเรนและสร้อยทิพย์ แต่ตำรวจกักตัวศักยะเพราะมีหลักฐาน ศักยะยอมรับสภาพอยู่ในคุกพ่อแม่ของพิมส่งเธอไปเรียนต่อต่างประเทศเพื่อหนี ข่าวฉาว พรายกลับมาหาศักยะในคุกพร้อมกับยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนชิ้นใหม่เพื่อแลกกับ อิสรภาพของศักยะ


ในที่สุดศักยะก็ใจอ่อนยอมรับเงื่อนไข โดยศักยะต้องไปเอาไม้เท้าตาเลิศมาให้มัน แล้วพรายก็ช่วยให้ศักยะออกจากคุก ตาเลิศสวดมนต์ให้วิญญาณของหลวงสินาดช่วย แล้วไม้เท้าก็สั่นจนหัวเสือหลุดออกมา ภายในมีผ้ายันต์ พรายปรากฎตัวขึ้น ตาเลิศขอให้พรายอโหสิกรรม พรายไม่ยอม ศักยะมาแย่งไม้เท้า พรายจะทำร้ายตาเลิศ แต่วิญญาณของตาจอนมาช่วยไว้ ศักยะสำนึกผิดนาทีสุดท้าย แล้วพรายและศักยะก็ถูกดูดเข้าไปในไม้เท้า ตาเลิศรู้ว่าวิญญาณของหลวงสินาดไม่ต้องการให้ออกมา เพราะศักยะเป็นตัวตายตัวแทนของพราย ตาเลิศจึงนำศักยะไปถ่วงน้ำพร้อมไม้เท้าเพื่อไม่ให้มาทำร้ายใครได้อีกเลย


รายชื่อนักแสดง
หนุ่ม ศรราม  เทพพิทักษ์  รับบทเป็น  ศักยะ
ตุ๊ย เกียรติกมล  ล่าทา  รับบทเป็น  รัชต์
มาร์กี้ ราศรี  บาเลนซิเอก้า  รับบทเป็น  เรน
ชาเคอลีน  มิ้นช์  รับบทเป็น  พิมพ์พัสตรา
ชุมพร  เทพพิทักษ์  รับบทเป็น  ตาเลิศ
เพ็ญพักตร์  ศิริกุล  รับบทเป็น  พิไล
ภาณุเดช  วัฒนสุชาติ  รับบทเป็น  แม้นฤกษ์
ไกรลาศ  เกรียงไกร  รับบทเป็น  ตาจอน
สรวงสุดา  ลาวัณย์ประเสริฐ  รับบทเป็น  สร้อยทิพย์
ศานติ  สันติเวชชกุล  รับบทเป็น  ทัดสิงห์
ชัชวาลย์  เพชรวิศิษฐ์  รับบทเป็น  ไว
อัญชิสา  เลี่ยวไพโรจน์  รับบทเป็น  เข็มทอง
กษมา  นิสสัยพันธุ์  รับบทเป็น  พ่อรัชต์
อรศรี  บาเลนซิเอก้า  รับบทเป็น  แม่รัชต์
อิทธิฤทธิ์  สิงหรัตน์  รับบทเป็น  ชัด (อายุ 100 กว่าปี)
ธิตินันท์  สุวรรณศักดิ์  รับบทเป็น  ชัด (หนุ่ม)
กิตติศักดิ์  ชีวาสัจจาสกุล  รับบทเป็น  ลพ (หนุ่ม)
อภิสรา  ฉวีวงษ์  รับบทเป็น  นิศรา
กิตติพล  เกศมณี  รับบทเป็น  ธีระ
ปีเตอร์  ธูนสตระ  รับบทเป็น  โทนี่


บทประพันธ์โดย : แก้วเก้า
บทโทรทัศน์โดย : เอกลิขิต
กำกับการแสดงโดย : วีระชัย  รุ่งเรือง
ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ออกอากาศ : ทุกวันจันทร์ - อังคาร เวลา 20.30 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ต่อจาละคร วนาลี